เมื่อวันที่ 22 ม.ค.นายประมวล เอมเปีย รองโฆษกประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี สนช. ชี้แจงเหตุผลการเลื่อนบังคับใช้กฎหมายเลือกตั้งส.ส. ภายใน 90 วันหลังประกาศลงราชกิจจานุเบกษาว่า สถานการณ์รัฐบาล คสช. ถ้ายังบริหารโดยไม่มีผลงานที่จับต้องได้และยังเดินหน้าทำประชานิยมซ่อนรูป ก็น่าเป็นห่วงว่ารัฐบาลจะลำบากในอนาคตอันใกล้ โดยเฉพาะกรณีผู้นำที่เป็นชายชาติทหาร หากไม่รักษาคำพูดที่สุดแล้วก็จะกระทบต่อความเชื่อมั่นและจะดิสเครดิตรัฐบาล คสช.ให้ตกต่ำลงเรื่อยๆตามที่หลายฝ่ายออกมาท้วงติง
นายประมวลกล่าวต่อไปว่า การที่ สนช. ซึ่งเป็นหนึ่งในแม่น้ำห้าสายยอมรับว่าออกกฎหมายนี้โดยเลื่อนการบังคับใช้ออกไปอีก 90-120 วัน แม้จะปฏิเสธว่า ไม่ได้รับใบสั่งจากผู้มีอำนาจ โดยอ้างเหตุผลเพื่อช่วยให้พรรคการเมืองมีเวลาเตรียมการเลือกตั้ง ก็ฟังไม่ขึ้นและเป็นคนละเรื่อง เพราะวันนี้สังคมดูที่การกระทำมากกว่าคำพูด สนช.ที่ไม่ฟังเสียงสังคมและพรรคการเมือง ยิ่งมีตัวแทนภาคประชาชนหลายสิบองค์กร กลุ่มเครือข่ายนักวิชาการและภาคประชาชนออกมาเคลื่อนไหว เช่น กลุ่มเดินมิตรภาพ คาดว่าจะมีพี่น้องเกษตรกรที่เดือดร้อนจากความลัมเหลวในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล จะออกมาเรียกร้องเพิ่มมากขึ้นตลอดในปีนี้ และจะยิ่งน่าเป็นห่วง หากมีการสร้างสถานการณ์ใดๆ โดยมีปัจจัยจากพฤติกรรมของคนในคณะรัฐบาล คสช. "คาดว่ารัฐบาลนี้จะอยู่ไม่ถึงโรดแม็ปที่วางไว้ สังคมไม่เชื่อถือในคำพูดของคนในรัฐบาล และจะลุกลามไปถึงตัวนายกฯ ที่สังคมจะไม่เชื่อถือท่านอีกแล้ว ที่สุดก็จะบริหารประเทศลำบากยิ่งขึ้น ดังนั้นเวลาที่เหลือน้อยของรัฐบาลคสช. ควรเร่งแก้ไขปัญหาปากท้อง ค่าครองชีพ หนี้สินครัวเรือนของประชาชนเพื่อกอบกู้วิกฤตศรัทธารัฐบาล คสช.ให้เร็วที่สุด"นายประมวลกล่าว