"ดิโอลด์สยาม" ชื่อนี้มีมนต์เสน่ห์

ปกติมักจะเห็นห้างสรรพสินค้า หรือ ศูนย์การค้านั้น ต้องเนืองแน่นไปด้วยเหล่าวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา คนยุคใหม่ที่แต่งตัวอวดเทรนด์กัน


แต่สำหรับดิโอลด์สยามแล้วที่แห่งนี้กลายเป็นแหล่งรวมตัวของผู้คนในยุคเพลงสุนทราภรณ์ เพลงลูกกรุงกำลังเฟื่องฟู จะเห็นผู้คนใส่เสื้อคล้ายๆกัน ลายดอก ลายขวาง ผมไม่ค่อยมาแต่ก็พกหวี บางคนทำผมยกกระบังลมพัดยังไม่เสียทรง และอีกมากมาย...

จึงไม่แปลกเลยที่ร้านอาหารจั๊งค์ฟู๊ด ที่มาเปิดที่นี่จึงมีแต่ผู้สูงอายุทั้งหญิง-ชาย มานั่งพักผ่อนอ่านหนังสือ ทานอาหาร แทนการอยู่บ้าน และร้านกาแฟริมทางเหมือนสมัยก่อนที่ปู่ย่าเล่าให้ฟัง
เข้าเรื่องกันสักที ดิโอลด์สยามก็เหมือนกับศูนย์การค้าทั่วไป แต่สิ่งที่โดดเด่นกว่าที่อื่นคงเป็นเสื้อผ้า ของใช้ร้านเพรช ร้านเช่าบูชาพระพุทธรูป และหลายๆ อย่าง ที่จะจำเพาะไปที่กลุ่มวัยกลางคน ไปจนถึงปู่ ย่า ตา ยาย เลยทีเดียว และยิ่งถ้าอยากจะหาซื้อแผ่นเสียง เทปคลาสเซท ซีดี เพลงลูกทุ่ง ลูกกรุง ถ้าที่นี่ไม่มี ในกรุงเทพมหานคร ก็ไม่รู้จะไปหาที่ไหนแล้ว

เรื่องอาหาร ไม่ต้องพูดถึง ด้วยจุดยืนที่ค่อยข้างจะย้อนยุค วินเทจหน่อยๆ เมนูอาหารส่วนใหญ่ก็จะมีชื่อแปลกๆ และหาทานได้ยากแล้ว ที่นี่เลยเป็นเหมือนสวรรค์ในเรื่องอาหาร
คุณจะเห็นขั้นตอนการทำฝอยทอง ทองหยิบ ทองหยอด สดๆ จะเห็นการปิ้งกล้วย มัน เผือก ที่ห่อใบตอง แล้วกลิ่นไหม้ของใบตองก็จะโชยยั่วน้ำไหลไปทั่ว ยังมีกลิ่นของข้าวเหนียวทุเรียน ข้าวเหนียวมะม่วงเจ้าเด็ดที่คนต่อคิวกันยาวเยียดก็ทำให้กลืนน้ำลายได้หลายรอบ

ยังไม่พอของคาวจากภาคต่างๆ ที่จะหมุนเวียนเปลี่ยนกันไปตลอดทั้งปี ก็น่าซื้อกลับไปตุนที่บ้าน แคบหมู น้ำพริกอ่อง แหนมเนือง แกงฮังเล แกงไตปลา เมนูเหล่านี้ล้วนแต่เด็ดดวงทั้งสิ้น ซึ่งทั้งหมดที่เล่ามาอยู่โซนอาหารชั้น 1 นั่นเอง

ส่วนใครอยากมีที่นั่งชิว ๆ กับเมนูอาหารคาว หวาน ที่เลือกด้วยตัวเองได้ก็ต้องขึ้นบรรไดเลื่อนไปชั้น 3 ฟู๊ดคอร์ส ดูๆ ไปก็เป็นอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว ขาหมู ข้าวมันไก่ ขนมหวานธรรมดาปกติ แต่ตรงนี้แหละคือไฮไลท์ อีกหนึ่งจุดเพราะเข้าสู่ช่วง 10 โมงจนถึง บ่าย 2 โมงในทุกวัน

โต๊ะที่เต็มห้องจะต้องเล่นเก้าอี้ดนตรีกันทันที เพราะนอกจากอาหารที่ดูธรรมดาแต่รสชาติดีแล้ว บรรยากาศของเพลงลูกกรุงที่เปิดเวที ให้ใครก็ได้ขึ้นมาร่วมร้องเพลงกันทำให้การรับประทานอาหารดูเพลิดเพลินจนหมดเวลาเลยทีเดียว ซึ่งส่วนใหญ่คนที่ขึ้นไปร้องก็เหล่าศิลปินรุ่นอาวุโสนี่แหละครับ


ดิโอลด์สยาม ในวันนี้แม้ภายนอกจะดูเหมือนศูนย์การค้าทั่วไปแต่ ถ้าได้ลองสัมผัสด้วยตัวเองก็จะได้อารมณ์ร่วมอีกหนึ่งแบบ คนรุ่นหลังจะได้เห็นความสุขของคนรุ่นก่อน คนรุ่นก่อนก็ได้ทำกิจกรรมที่ตัวเองชอบในยุคที่โลกเปลี่ยนแปลงไป


นี่แหละครับเหตุผลง่าย ๆ ในรอยต่อของการเปลี่ยนผ่านคนทั้งสองวัย สองอิทธิพล ที่แตกต่างกันจะเชื่อมสานกันผ่านอะไร ณ ดิโอสยามแห่งนี้อาจเป็นอีกหนึ่งคำตอบ จึงอดไม่ได้เลยที่พี่โน่ จะชวนทุกคนมาสัมผัสด้วยตัวเอง แล้วอย่าลืมมาปักหมุดเช็คอินที่ "ดิโอลด์สยาม" นะครับ