การยกเลิกเกิดขึ้นทั้งที่ทรัมป์เพิ่งยืนยันกับนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ เมื่อเดือนที่แล้วว่า เขาจะไปเยือนอังกฤษแน่นอน โดยมีกำหนดพบปะหารือกับเมย์ที่บ้านเลขที่ 10 ในระหว่างการเยือนวันที่ 26-27 กุมภาพันธ์ และทางการอังกฤษได้เตรียมตัวต้อนรับอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการเปิดสถานทูตสหรัฐฯ แห่งใหม่ มูลค่า 750 ล้านปอนด์ แต่ตอนนี้ดูเหมือนนายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศจะไปทำหน้าที่แทน
กำหนดการเยือนระบุว่า ทรัมป์จะไม่เข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 จนกว่าจะไปเยือนแบบรัฐพิธีในภายหลัง ซึ่งแหล่งข่าวบอกว่า การไม่ได้เยือนแบบรัฐพิธีและไม่ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินี อาจทำให้ทรัมป์ไม่พอใจ
ทรัมป์ยังแสดงความวิตกว่าจะเจอการประท้วงใหญ่ โดยเขาบอกกับเมย์เมื่อปีที่แล้วว่า ไม่อยากไปเยือนอังกฤษ จนกว่าสาธารณชนชาวอังกฤษจะต้อนรับเขา ส่วนความสัมพันธ์ทางการทูตนั้น ทรัมป์กับเมย์พบปะกันเมื่อเดือนพฤศจิกายน เมื่อเมย์ตำหนิเขาที่รีทวี้ตข้อความต่อต้านชาวมุสลิมของกลุ่มขวาจัด "Britain First" และทรัมป์ได้ตอบโต้ผ่านทวิตเตอร์ว่า อย่ามุ่งไปที่ตัวเขา แต่ให้เน้นที่ลัทธิก่อกาาร้ายอิสลามหัวรุนแรงที่ทำลายล้าง ที่กำลังเกิดขึ้นในสหราชอาณาจักร
ตอนที่ทรัมป์ตัดสินใจรับรองเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล เมย์ก็วิพากษ์วิจารณ์อีกว่า "ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ในแง่ของโอกาสที่นำมาซึ่งสันติภาพในภูมิภาค"
แต่หลังจากมีการพูดคุยกันทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ทางการอังกฤษก็ปักใจเชื่อว่า ทรัมป์จะไปเยือนแน่ โดยบอกว่า การสนทนาเต็มไปด้วยไมตรีจิต
มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดการประท้วงใหญ่ในช่วงการเยือนของทรัมป์ หลังจากนายเจเรมี คอร์บิน หัวหน้าพรรคแรงงาน เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนออกมาแสดงพลังต่อต้านเพื่อส่งสารที่ชัดเจนไปถึงทรัมป์ และมีคนร่วมลงชื่อสนับสนุนให้ยกเลิกการเยือนของทรัมป์มากกว่า 1 ล้านชื่อ