ชทพ. กังวล เวลาของพรรคตามโรดแม็พเลือกตั้ง

นายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา แถลงให้กำลังใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ต่อการเดินหน้าตามโรดแม็พการเลือกตั้ง ช่วงเดือนพฤศจิกายน 2561 อย่างไรก็ดีตามเงื่อนไขเวลาที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ประกอบที่แก้ไขตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 53/2560 ตนมีข้อกังวลว่าพรรคจะดำเนินการไม่แล้วเสร็จตามเงื่อนไขเวลาที่กำหนดไว้ และอาจสุ่มเสี่ยงกระทบต่อสถานของพรรคการเมืองได้

"หากนับเวลาที่ คสช. ให้พรรคมีสิทธิดำเนินการได้ คือ เดือนเมษายน และกำหนดเลือกตั้ง เดือนพฤศจิกายน 2561 ถือว่ามีเวลาดำเนินการกระชั้นชิดอย่างมาก ทั้งกรณีการหาผู้สมัครส.ส.ตามระบบไพรมารี่โหวต ที่คาดว่าจะใช้เวลานานกว่า 1 เดือนเพราะมีขั้นตอนประชุมใหญ่เพื่อตั้งกรรมการ และลงมติผู้ที่ผ่านระบบการเลือกตั้งขั้นต้นในจังหวัดต่างๆ ผมมองข้อเท็จจริงได้ว่าปัจจุบันกติกาที่ออกมาสร้างความลำบากให้กับทุกพรรคการเมือง และเป็นประเด็นที่น่ากังวลมากกว่า การลดเวลาหาเสียงเลือกตั้ง เพราะหากให้เวลาหาเสียงเพียง 20-35 วัน ทางพรรคมีกลยุทธ์ที่จะทำได้ แต่หากพรรคทำกิจกรรมตามกฎหมายไม่นั่น ถือเป็นความเสี่ยงที่จะไร้พรรค" นายวราวุธ กล่าว

นายวราวุธ กล่าวต่อถึงความเคลื่อนไหวของพรรคชาติไทยพัฒนา ยอมรับว่ายังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ทั้งประเด็นการวางตัวผู้สมัครส.ส. หรือ การดึงอดีต ส.ส.จากพรรคการเมืองอื่นเข้าสังกัดนั้น เพราะด้วยภาวะที่ยังถูกห้ามทำการเมือง ทั้งนี้ยอมรับว่าอดีตนักการเมืองและอดีตส.ส. ของพรรคต่างๆ มีจังหวะที่พบปะพูดคุยกัน แต่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องการดึงตัวผู้สมัครส.ส. ส่วนประเด็นที่อดีต ส.ส.หรือนักการเมืองของพรรคจะถูกซื้อตัวนั้น เท่าที่ตนทราบยังไม่มี

ผู้สื่อข่าวถามถึงประเมินโอกาสที่นายกฯจะลงสนามการเมืองหลังประกาศตัวเป็นนักการเมือง โดย นายวราวุธ ปฏิเสธที่จะให้ความเห็น เพราะมองว่าเป็นประเด็นที่ยังไม่เกิดขึ้น

"เมื่อถึงเวลาจริง พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะบอกว่าผมพอแล้ว ผมไม่เอาแล้วก็ได้ ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีอะไรชัดเจน หากนายกฯจะตัดสินใจลงสมัคร ก็เป็นสิ่งที่ท่านทำได้ แต่ทางพรรคยังไม่ขอแสดงท่าทีใดๆ จะไม่พูดดักทาง หรือให้ความเห็นที่เป็นการจำกัดทางเดินหรือผูกมัดตัวเอง" นายวราวุธ กล่าว

นายวราวุธ ยังเรียกร้องไปยังคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ให้พิจารณาสร้างมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิเลือกตั้ง แทนการเพิ่มบทลงโทษ หรือมีมาตรการลงโทษที่รุนแรง ส่วนกรณีที่กมธ. สนช. มีแนวคิดให้การหาเสียงแสดงมหรสพเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนร่วมฟังงานปราศรัยนั้น ถือเป็นแนวคิดที่ดูตลก