svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ป.ป.ช.เดินหน้าสอบปมนาฬิกาหรู "บิ๊กป้อม"

05 มกราคม 2561
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

คดีทุจริตที่อยู่ระหว่างการสอบสวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ล่าสุดได้มีการแถลงความคืบหน้า 6 คดี ที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ คดีนาฬิกาหรู และแหวนเพชร ของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะมีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง ไปติดตามจากคุณสรารัตน์ รัตนสุวรรณ

วันที่ 5 ม.ค. 61 เวลา 09.30 น. นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการ ป.ป.ช. ได้แถลงข่าวคดีที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ซึ่งมีประมาณ 10 คดี โดยเฉพาะเรื่องนาฬิกาหรู ที่อยู่ในความครอบครองของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และ รมต.กลาโหม ซึ่งล่าสุด พล.อ.ประวิตร ได้ทำหนังสือชี้แจงที่มาของนาฬิกาหรู ส่งมายัง ป.ป.ช.แล้ว

โดยนายวรวิทย์บอกว่า หลังรับหนังสือชี้แจงแล้ว ภายในสัปดาห์หน้าจะเรียกพยาน 4 คน ซึ่งเป็นนักธุรกิจ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับนาฬิกาหรูทั้งหมดให้มาชี้แจง ซึ่งมีทั้งการชี้แจงด้วยตัวเองที่ ป.ป.ช. และชี้เเจงนอกสถานที่ด้วย

แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดหนังสือชี้แจงของ พล.อ.ประวิตร ว่า มีการชี้แจงมากี่เรือน แต่เบื้องต้นเป็นการชี้เเจงตามจำนวนที่เป็นข่าว ส่วนประเด็นแหวนเพชร ป.ป.ช.ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประวิตร เมื่อวันที่ 4 ม.ค.เพื่อให้ชี้แจงเพิ่มเติมถึงที่มาของแหวนเพชรโดยกำหนดเวลา 15 วันนับตั้งแต่วันที่ออกหนังสือ
ส่วนเรื่องความเชื่อมั่นในคดีนี้ เลขา ป.ป.ช.ยืนยันว่า จะตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา และเป็นไปตามกฎหมาย เพราะเป็นคดีที่สังคมให้ความสนใจ และยืนยันว่าคดีนี้ไม่มีความซับซ้อนเบื้องต้นคาดว่า จะสรุปผลการสอบสวนได้ตามกรอบเวลาเดิมคือเดือน ม.ค.นี้ แต่ยังต้องรอดูว่า จะมีการเรียกสอบพยานบุคคลและเอกสารเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นอาจจะต้องขยายกรอบเวลาออกไป เป็นช่วงเดือน ก.พ.

ส่วนกรณีที่นักการเมืองจะสามารถยืมทรัพย์สินจากบุคคลที่ 3 ได้หรือไม่นั้น เลขา ป.ป.ช.บอกว่าขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ และความไว้เนื้อเชื่อใจรวมถึงเจตนาในการให้ยืม ซึ่งจะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ต่อไป

สำหรับนาฬิกาหรูของพลเอกประวิตรที่ตกเป็นข่าวนั้น พบว่าล่าสุดมีจำนวน 15 เรือน รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท

ส่วนคดีอื่นๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ป.ป.ช.ทั้งคดีเงินทอนวัดของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ในโครงการเงินอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์ วัดและการพัฒนาวัด ซึ่งเป็นคดีที่เกิดขึ้นระหว่างปีงบประมาณ 2555 2558 แต่เพิ่งมีการร้องเรียนมายังป.ป.ช.ในปี 2560 ขณะนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 133 วัด คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงแล้ว จำนวน 12 วัด

ส่วนที่เหลือ อีก 120 วัด อยู่ระหว่างขั้นตอนการแสวงหาข้อเท็จจริงของสำนักงาน ป.ป.ช. และมีหนึ่งคดีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้ชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่ของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินงบประมาณอุดหนุนการบูรณปฏิสังขรณ์วัดและการพัฒนาวัด คือคดีวัดพนัญเชิงวรวิหาร ซึ่งได้แถลงให้สื่อมวลชนทราบแล้ว ส่วนอีก 1 วัดคือวัดในจังหวัดสงขลา จะมีการแถลงผลการตรวจสอบให้สื่อมวลชนทราบในวันที่ 8 ม.ค.

คดีต่อมาคือโครงการจัดหาที่ดินเพื่อปลูกปาล์ม และผลิตน้ำมันปาล์มในประเทศอินโดนีเซีย จำนวน 5 โครงการของบริษัท ปตท.กรีน เอนเนอร์ยี่ จำกัด คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้มีมติแต่งตั้งให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ทั้งคณะเป็นองค์คณะในการไต่สวนข้อเท็จจริง เมื่อเดือน ส.ค.2557 ปัจจุบันองค์คณะได้มีการสอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องจำนวน 47 ราย และได้ประสานความร่วมมือระหว่างประเทศทางอาญาจากสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ในการขอเอกสารหลักฐานและร่วมสอบสวนพยานบุคคลแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2561คดีต่อมาคือ คดีสินบนโรลส์รอยซ์ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติแต่งตั้งคณะกรรมการ ป.ป.ช.ทั้งคณะเป็นองค์คณะในการไต่สวนข้อเท็จจริง เมื่อเดือน มิ.ย.2560 โดยมีความคืบหน้าตามหน่วยงานที่ถูกกล่าวหาดังนี้

1. กรณีบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) องค์คณะได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว 80% สอบปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้องแล้ว 60% ปัจจุบันอยู่ระหว่างประสานความร่วมมือกับสำนักงานอัยการสูงสุดในการขอความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญากับสหราชอาณาจักร (ประเทศอังกฤษ)2. กรณีบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตเลียม จำกัด (มหาชน) องค์คณะได้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว 60% ปัจจุบันอยู่ระหว่างการสอบสวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง และได้มีการประสานความร่วมมือกับสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อขอความร่วมมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญากับประเทศสหรัฐอเมริกา

ซึ่งทั้ง 2 คดี การรวบรวมพยานหลักฐานค่อนข้างยาก เนื่องจากเหตุเกิดนานแล้ว ระหว่างปี 2546 - 2547 และการรวบรวมพยานหลักฐานต้องรอพยานหลักฐานจากต่างประเทศ ซึ่งสำนักงาน ป.ป.ช. ไม่สามารถทราบกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจนได้
อีกคดีคือ การเช่าเครื่องบินเหมาลำของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ไปประชุมที่รัฐฮาวายประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาเมื่อวันที่ 31 มี.ค. 2560 แล้ว เห็นว่าพยานหลักฐาน จากการแสวงหาข้อเท็จจริงประกอบรายงานการตรวจสอบของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินไม่ปรากฏว่ามีการกระทำผิดระเบียบแต่อย่างใด จึงมีมติไม่รับไว้ดำเนินการไต่สวนตามระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าด้วยการตรวจสอบคำกล่าวหา การแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน พ.ศ. 2560 ข้อ 25 (2)
และคดีสุดท้ายคือ การอนุมัติให้บริษัทเอกชนเข้าใช้ที่ดินสาธารณะป่าห้วยเม็ก หมู่ที่ 6 ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น เนื้อที่ประมาณ 31 ไร่ 2 งาน 63 ตารางวา ซึ่งเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน โดยมิชอบด้วยกฎหมาย สำนักงาน ป.ป.ช. ได้รับเรื่องกล่าวหาเมื่อวันที่ 20 ก.ย.2560 ปัจจุบันสำนักงาน ป.ป.ช. อยู่ระหว่างการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานว่าการดำเนินการของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้องเป็นไปโดยชอบหรือไม่
ส่วนเรื่องการจัดซื้อเครื่องตรวจจับความเร็วแบบพกพาที่ปรากฏเป็นข่าวตามสื่อมวลชนจากการตรวจสอบข้อมูลไม่พบว่ามีผู้กล่าวหาร้องเรียนในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด

logoline