โดยแบ่งเป็นประเภทเรื่อง 1. สังคมและสวัสดิการ จำนวน 51,045 เรื่อง หรือ 56.34 เปอร์เซ็นต์ 2.การเมืองการปกครอง จำนวน 11,046 เรื่อง หรือ 12.19 เปอร์เซ็นต์ 3. การร้องเรียนกล่าวโทษเจ้าหน้าที่รัฐ จำนวน 9,717 เรื่อง หรือ10.72 เปอร์เซ็นต์4. เศรษฐกิจ จำนวน 8,232 เรื่อง หรือ 9.09 เปอร์เซ็นต์ 5.กฎหมาย จำนวน 7,333 เรื่อง หรือ 8.09 เปอร์เซ็นต์ 6.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 3,111 เรื่อง หรือ 3.43 เปอร์เซ็นต์ และ 7.พ.ร.บ.อำนวยความสะดวก จำนวน 122 เรื่อง หรือ 0.13 เปอร์เซ็นต์
นายสมพาศ กล่าวต่อว่า เรื่องที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนมากที่สุดในปี 2560 พบว่า 3 อันดับแรก คือ เหตุเดือดร้อนรำคาญใจ โดยเฉพาะปัญหาจากเสียงดังรบกวน เนื่องจากการเปิดเพลงเสียงดังของร้านจำหน่ายอาหาร สุรา และการมั่วสุมแข่งรถจักรยานยนต์ของกลุ่มวัยรุ่น เป็นต้น รองลงมา คือ ผลกระทบจากนโยบายและโครงการของรัฐ โดยเฉพาะประเด็นการขอให้ขยายระยะเวลาลงทะเบียนร้านค้า รวมถึงขอให้นำค่าใช้จ่ายในบัตรที่ได้รับเปลี่ยนเป็นเงินสด และขอให้มีเครื่องรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มมากขึ้น เป็นต้น สุดท้ายคือเรื่องไฟฟ้า
นายสมพาศ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตามประชาชนเข้าร้องเรียนผลกระทบจากนโยบายและโครงการของรัฐถึง 6,489 เรื่อง อยู่ระหว่างดำเนินการ 787 เรื่อง และยุติแล้ว 5,702 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 7.16 ขณะที่ปัญหายาเสพติดจำนวน 3,745 เรื่อง อยู่ระหว่างดำเนินการ 70 เรื่อง และยุติแล้ว 3,675 เรื่องคิดเป็นร้อยละ 4.13 และปัญหาบ่อนการพนัน จำนวน3,361 เรื่อง อยู่ระหว่างดำเนินการ 71 เรื่อง และยุติแล้ว 3,290 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 3.71