จากนั้นให้สัมภาษณ์ว่า ขอให้ทุกคนนำการปฏิบัติ ของนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ ไปเป็นแบบอย่างกับคนไทยในเรื่องของความขยัน ความตั้งใจ และการไต่เต้าหน้าที่การงาน ที่เริ่มต้นจากลูกชาวบ้านธรรมดาในจ.นครศรีธรรมราช แต่ด้วยความมุ่งมั่นและอุตสาหะ ทำให้ประสบความสำเร็จ ทั้งเรื่องการเรียนและการทำงาน รวมถึงทางการเมือง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมีบทบาทสำคัญในงานการต่างประเทศระดับอาเซียน และนานาชาติ
ซึ่งได้รับการยกย่องจากต่างชาติ รวมถึงมีส่วนช่วยให้รัฐบาลไทยได้ส่งทหารเจ้าร่วม รักษาสันติภาพในติมอร์ตะวันออก โดยไทยไม่ได้เสียค่าใช้จ่าย แต่อย่างใด ขณะที่งานทางการเมืองได้ละทิ้งความก้าวหน้าในอาชีพราชการ เพื่อมารับใช้ประชาชน และทุกคนที่ได้รู้จักจะรู้สึกรักและชื่นชม ซึ่งต่างชาติที่ได้รู้จักและพูดคุยต่างยกย่อง และขนานนามให้เป็น "Prince Surin"