เมื่อวันที่ 30 พ.ย. นายอุดม คชินทร รมช.ศึกษาธิการ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าเฝ้าถวายสัตย์ฯ ว่า ถ้าจะถามตนว่าหนักใจไหม ต้องบอกว่า ก็หนักใจ เพราะเรื่องการศึกษาหลายคนตั้งความหวังไว้สูง และเป็นเรื่องของอนาคตประเทศ ถ้าเราปฏิรูปการศึกษาไม่สำเร็จ ก็จะตามประเทศอื่นยากมาก ตนจะพยายามทำตรงนี้ให้ได้แม้ว่าเวลาจะสั้นก็ตาม ซึ่งต้องมีจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ไม่เช่นนั้นเราจะอยู่ลำบาก โดยการทำงานต้องอาศัยความร่วมมือจากข้าราชการกระทรวง คุณครู และบุคลากรทางการศึกษาต่างๆ ทุกคนต้องมีเป้าหมายระดับประเทศร่วมกัน ในการพัฒนาศักยภาพเพื่อแข่งขันกับประเทศอื่นๆ ได้ เชื่อเรามีศักยภาพเพียงพอ เพียงแต่ว่าการบริหารจัดการหรือการเรียนการสอนยังไม่ดีพอ ต้องมีการปรับบ้าง
เมื่อถามว่า ระบบการสอบเข้ามาหาวิทยาลัยระดับชาติ เช่น GAT-PAT ที่ดูเหมือนจะล้มเหลว จะต้องแก้ไขในส่วนนี้หรือไม่ รมช.ศึกษา กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องมีการล่มบ้าง แต่วันนี้เราต้องตั้งหลักคิดให้ดี ทำอย่างไร สอนอย่างไรให้เด็กของเราทั้งก่อนและหลังชั้นอุดมศึกษาให้มีความรู้ที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ประเทศน่าอยู่ขึ้นได้ และเป้าหมายนี้ก็จะย้อนกลับไปที่กระบวนการเรียนการสอน ซึ่งครูก็ต้องปรับทัศนคคิใหม่ว่าการเรียนการสอนแบบเดิมไม่สามารถจะพัฒนาขึ้นได้
"ผมว่าการสอนในห้องเรียน หรือการเล็กเชอร์ต้องลดลง ต้องเรียนข้างนอกและเน้นฝึกปฏิบัติจริงให้มากขึ้น นอกจากนี้ความร่วมระหว่างเรากับเอกชน และอุตสาหกรรมต้องเกิดขึ้นจริง ตรงนี้ผมมองว่าจะเป็นส่วนที่ช่วยได้อย่างมาก เพราะต้องยอมรับว่าเด็กสมัยนี้มีการเรียนรู้ไปเยอะมาก มีแหล่งความรู้ทางอินเตอร์เน็ตมหาศาล ซึ่งเรื่องนี้ คุณครูและอาจารย์ต้องปรับทัศนคติในเรื่องการสอนด้วย โลกทุกวันนี้โลกาภิวัฒน์ไปมาก เราต้องสอนให้เด็กเก่งในไทยไม่พอ แต่ต้องเก่งในระดับอาเซียนด้วย" รมช.ศึกษา กล่าว
เมื่อถามว่าระยะเวลา 1 ปี ถือว่าสั้นหรือไม่ นายอุดม กล่าวว่า ก็สั้น แต่ตนคิดว่าต้องมีการเริ่มต้นเปลี่ยนแปลง แม่ว่าหลังเลือกตั้งเราจะเดาไม่ได้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่ก็ต้องมีจุดเริ่มต้น เพราะเรื่องอย่างนี้จะเห็นผลได้ชัดต้องใช้เวลา 5-10 ปี ตนหวังว่าจะมีคนมาทำต่อ เพราะสิ่งที่เราขาดคือความต่อเนื่อง
เมื่อถามอีกว่าสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงรับสั่งเรื่องใดบ้าง รมช.ศึกษาธิการ กล่าวว่า ท่านรับสั่งอยากให้ ครม.ดูแลเรื่องความมั่นคง ซึ่งไม่ได้หมายถึงมิติการเมือง แต่เป็นทุกเรื่อง ทั้งความเป็นอยู่ อาหาร ความปลอดภัย ให้ประชาชนมีความสุข ท่านทรงพระราชทานคำแนะนำว่าต้องใช้ปัญญา ซึ่งก็ต้องย้อนไปที่ว่าเราสอนลูกศิษย์ให้มีปัญญาจริงหรือไม่