ขายไม่ออก! บังคับคดีสั่งปิดการขายเครื่องบินแอร์บัสแล้ว

กรมบังคับคดีเปิดการขายทอดตลาดทรัพย์สินในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ ผบ.4820/2557 ประเภทอากาศยานแอร์บัส a -310 - 222 สัญชาติและเครื่องหมายทะเบียน HS PCC หมายเลขชุดของอากาศยาน 419 จำนวน 1 ลำ นัดที่ 5 ของสำนักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร 1 ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 21 ล้านบาท ซึ่งเป็น 70% ของราคาที่กำหนดโดยราคาประเมินของเจ้าพนักงานบังคับคดี โดยมีนายศรัณย์ ปัญญาดิลก ผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีแพ่งกรุงเทพมหานคร 1 ไปร่วมดูแลการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งการขายทอดตลาดอากาศยานลำดังกล่าว มีกำหนดขายทั้งสิ้นจำนวน 6 นัด และในวันนี้ (29 พ.ย.) เป็นนัดที่ 5 ปรากฏว่ามีเพียงผู้สนใจเข้าร่วมสังเกตการณ์การขายทอดตลาดอากาศยาน และมีผู้แทนฝ่ายโจทก์มาร่วมดูแลการขาย แต่ยังไม่มีผู้เข้าร่วมประมูลสู้ราคา เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงงดการขายทอดตลาดทรัพย์ในนัดที่ 6 ตามที่กำหนดไว้ในวันที่ 20 ธันวาคม 2560

น.ส.รื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี กล่าวว่า ภายหลังปิดการขายทอดตลาดเนื่องจากไม่มีผู้สนใจเข้าร่วมประมูล ตามขั้นตอนจะต้องเชิญประชุมเจ้าหนี้ว่าประสงค์จะลดราคาขายลงหรือไม่ และจะให้ทำการขายทอดตลาดต่อไปหรือไม่ เบื้องต้นฝ่ายเจ้าหนี้ขอเวลาพิจารณา 10 วัน หากประสงค์จะลดราคาขายก็จะทำคำร้องถึงกรมบังคับคดี เพื่อให้นำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการกำหนดราคาทรัพย์อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม หากมีการขายทอดตลาดอีกครั้ง จะเป็นการขายทรัพย์ตามกฎหมายฉบับใหม่ ซึ่งจะเปิดการขายได้ 4 ครั้ง เปิดขายครั้งแรกที่ราคา 100% และลดลงครั้งละ 10% จนถึงครั้งที่ 4 ซึ่งสามารถเปิดขายโดยลดราคาสูงสุด 30%

สำหรับเครื่องบินลำดังกล่าวเป็นของสายการบิน PC AIR สายการบินแบบเช่าเหมาลำที่เคยมีปัญหาไม่สามารถบินออกจากสนามบินอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ได้ เนื่องจากสายการบนติดชำระค่าเชื้อเพลิงและค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน ทางเกาหลีจึงไม่เติมน้ำมันให้ ส่งผลให้ผู้โดยสารต้องตกค้างที่สนามบินอินชอนกว่า 400 คน เมื่อเดือน ต.ค. ปี 2555 และก่อนหน้านี้สายการบินดังกล่าวยังเคยสร้างความฮือฮาด้วยการเปิดรับสาวประเภทสองเป็นแอร์โฮสเตสอีกด้วย เมื่อถูกฟ้องล้มละลายเข้าสู่การบังคับคดี จึงมีการขายทอดตลาด โดยกำหนดราคาประเมินขายนัดแรก 30 ล้านบาท

กรณีไม่มีผู้สนใจประมูลซื้อทรัพย์ราคาเปิดจะประมูลจะลดลงเรื่อยๆ ตั้งแต่ 10-30 % แต่ไม่สามารถเปิดการขายในราคาต่ำกว่า 70% ของราคาประเมินที่กำหนดโดยคณะกรรมการได้ ทั้งนี้ผู้สนใจประมูลต้องวางเงินประกันจำนวน 2,500,000 บาท สำหรับผู้ที่ประมูลทรัพย์ได้จะต้องชำระค่าบริการจอดเครื่องบิน ต่อบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) โดยมียอดค่าใช้จ่าย ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน 2560 เป็นเงินจำนวน 5,165,466.09 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) พร้อมค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในภายหน้าจนกว่าจะทำการเคลื่อนย้ายออจากพื้นที่ท่าอากาศยานดอนเมือง คิดเป็นรายวันๆละ 10,700 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว) เนื่องจากเป็นทรัพย์ที่มีขนาดใหญ่ และใช้พื้นที่ในการเก็บรักษาทรัพย์ที่เป็นการเฉพาะ ส่วนผู้ที่เข้าสู้ราคาที่ประมูลซื้อทรัพย์ไม่ได้ สามารถขอรับเงินสดหรือแคชเชียร์เช็คที่วางเป็นหลักประกันไว้รับคืนได้ทันที