สู้เพื่อลูก... แม่วัย 41 สู้ชีวิต ดูแลลูก 6 ขวบนอนติดเตียง ป่วยโรคสมองพิการ

เข้าใจหัวอกคนเป็นแม่วัย41ปี ที่ต้องดูแลลูกชาย6ขวบที่นอนติดเตียงด้วยโรคสมองพิการแต่กำเนิด พร้อมลูกชายคนเล็กวัย3ขวบ ตามลำพัง จนปัจจุบันนี้ไม่สามารถออกไปประกอบอาชีพขายขนมตามตลาดนัดได้ เพราะลูกชายวัย6ขวบ ป่วยด้วยโรคสมองพิการตั้งแต่กำเนิด แพทย์ต้องทำการผ่าตัดดูดน้ำในสมองมาแล้วถึง3ครั้ง ตั้งแต่อายุ1เดือน ซ้ำร้ายลูกชายคนโต เกิดปัญหาภูมิมีเสมหะตลอดเวลา จนคุณธัญญ์ปวีณ อภิวสุตระกุล ผู้เป็นมารดาไม่ไหนได้ เพื่อนที่รู้จักเข้าใจถึงการแบกภาระเพียงลำพัง ติดต่อสื่อเพื่อช่วยวิงวอนขอธารน้ำใจ คนไทย หยิบยื่นโอกาสสร้างอาชีพ ช่วย คุณแม่ ที่สู้เพื่อลูก

สำหรับคุณ ธัญญ์ปวีณ อภิวสุตระกุล อายุ41ปี อยู่บ้านเลขที่28/18ม.2ต.พลอยแหวน อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี อาศัยเช่าบ้านแถวริมถนนสายพระยาตรัง เป็นที่พักพิงดูแลลูกชาย2คน ตามลำพัง โดยเฉพาะ ด.ช.ธนกฤต เถาวัลย์ หรือ น้องโมชิ อายุ6ขวบ ที่ต้องนอนติดเตียงจากอาการป่วยด้วยโรคสมองพิการตั้งแต่กำเนิด ระยะเวลา3ปี หลังจากมีบุตรชายคนที่2 ที่ต้องเลิกรากับการมีชีวิตครอบครัว ทำให้ทุกวันคุณแม่สู่เพื่อลูก ต้องใช่เวลาส่วนใหญ่ดูและบุตรชายตลอดเวลา และอาศัยในช่วงที่มีตลาดนัด ในพื้นที่ใกล้บ้านอออกไปขายขนม ซึ่งในหนึ่งอาทิตย์จะมีโอกาสไปขายของได้เพียงไม่กี่ครั้ง เนื่องจากตลาดนัดจะมีระยะการจัดตามกำหนด บุตรชายต้องเจาะท้องเพื่อให้อาหารทางสายยาง และเกิดเป็นโรคภูมิแพ้ทำให้มีเสลดมากกว่าปกติ ระยะเวลาเพียงไม่กี่นาทีต้องใช้เครื่องซัคชั่นทำการดูดเสมหะ พร้อมกับต้องพ่นยาขยายหลอดลมทุก4ชั่วโมง โดยผ่านทางหน้ากาก ถังอ็อกซิเจนเป็นประจำทุกวันต้องทำการเปลี่ยนทุกวัน อันเป็นความกังวลที่ต้องทิ้งลูกชาย ไว้ตามลำพัง

ขณะนำถังออกซิเจนไปเปลี่ยน ความหนักของถังที่ต้องกลิ้งไปมาทำให้เกิดอุบัติเหตุจากถังล้มทับ จนนิ้วหัวแม่เท้ามีอาการเล็บถอด ถึงเจ็บก็ต้องเดิน ต้องทำทุกอย่างเพื่อรักษาชีวิตลูกชายที่เป็นแก้วตาดวงใจ ส่วนลูกชายคนเล็กวัย3ขวบ ในช่วงกลางวันเพื่อนบ้านที่แสนดีทำรับหน้าที่รับ-ส่ง ไปเรียนอนุบาลในตัวอำเภอท่าใหม่ เพราะเข้าใจดีว่าคุณธัญญ์ปวีณ ต้องอยู่ดูแลลูกตลอดเวลา แต่ขณะเดียวกัน ก็ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่าย เฉพาะของน้องโมชิ ไม่น้อยกว่า8,000-9,000บาทต่อเดือน และยังไม่รวมค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำ-ไฟ รวมทั้งค่าใช้อื่นๆอีกจำนวนหนึ่ง

คุณธัญญ์ปวีณ อภิวสุตระกุล เปิดเผยถึงเรื่องราวที่ บางวันต้องออกไปขายเสื้อผ้ามือ2ตามตลาดนัด เพื่อให้ได้เงินมาจุนเจือ แต่ต้องแลกกับการทิ้งลูกไว้ที่บ้านตามลำพัง เมื่อขายของเสร็จก็ต้องรีบกลับมา ในบางครั้งก็รับทำขนม แต่ที่บ้านไม่เอื้ออำนวยเนื่องจากเป็นห้องแถว เพราะแป้งทำให้ลูกแพ้อากาศได้ง่ายจนต้องหยุดไป แม้จะพยายามคิดหารายหลายหนทาง แต่พอเห็นหน้าลูกก็ไม่สามารถทิ้งไว้ตามลำพังได้ จึงพยายามจะหารายได้จากการทำงานที่บ้าน โดยได้รับการช่วยเหลือจาก แม่ผึ้ง หรือ น.ส.ชุลีวรรณ ประสาทพันธ์ ผู้จัดการชมรมผู้ปกครองเด็กออทิสติก จ.จันทบุรี ในการเป็นธุระให้ตามสมควร

ตลอด3ปีย้อนหลัง น้องโมชิ ได้รับเบี้ยยังชีพคนพิการ เดือนละ800บาท จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ส่วนเรื่องการดูแลรักษาใช้สิทธิคนพิการ (ท.74 )ของ สปสช. ที่ช่วยเฉพาะในเรื่องค่ารักษาพยาบาล ไม่แต่ครอบคลุมเรื่องอุปกรณ์การรักษาแต่ละครั้ง รวมไปถึงยานอกบางชนิดที่ต้องจ่ายเงินเอง ส่วนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ แวะเวียนมาดู แม้ว่า น.ส.ธัญญ์ปวีณ จะร้องขอความช่วยเหลือให้กับลูกชาย แต่ส่วนใหญ่ก็อ้างตามกรอบระเบียบต่างๆ ที่มีมากมาย จนต้องหยุดร้องขอความเมตตากับหน่วยงานต่างๆ

น.ส.ธัญญ์ปวีณ ยังเผยอีกว่า ที่ผ่านมา ก็มีคนใจบุญใจกุศล บริจาคเงินตลอดจนสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น รวมไปถึงอุปกรณ์เครื่องมือการแพทย์ เครื่องดูดเสหะทาง อบจ.จันทบุรี ได้กรุณาให้หยิบยืมมาใช้ ตนเองอยากวอนขอผู้มีจิตศรัทธา ผู้ใจบุญ มาช่วยสร้างอาชีพประจำ ที่สามารถทำงานหารายได้อยู่ที่บ้าน เพื่อจะได้ใช้เวลาดูแลลูกควบคู่กันไปด้วย โดยไม่ยากให้เป็นภาระสังคม จึงขอวิงวอนผู้ใจบุญ ที่ต้องการช่วยเหลือสร้างอาชีพ สามารถบริจาคเงินผ่านบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด สาขาจันทบุรี ชื่อบัญชี นางสาวธัญญ์ปวีณ อภิวสุตระกุล เพื่อ เด็กชายธนกฤต เถาวัลย์ เลขบัญชีออมทรัพย์514-262476-0หรือ โทรหมายเลข080-0644-552หรือจะบริจาคเป็นเสื้อผ้าทุกประเภท เพื่อนำไปเปลี่ยนเป็นเงิน หรือ ของใช้ที่จำเป็นต่างๆก็ได้