นายวราวุธ ศิลปอาชา แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีที่ตัวแทนพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปไตยเสนอความเห็นต่อประเด็นการจับมือร่วมกันเพื่อจัดตั้งรัฐบาลของพรรคการเมืองหลังการเลือกตั้ง ว่า ยังเร็วเกินไปต่อการสรุปประเด็นดังกล่าวและให้ความเห็นต่อจุดยืนของพรรคชาติไทยพัฒนา เนื่องจากการลงคะแนนเลือกตั้งนายกฯ นั้นต้องพิจารณาจากคะแนนและจำนวนส.ส. หลังการเลือกตั้ง ส่วนกรณีการเสนอชื่อบุคคลที่ไม่อยู่ในบัญชีรายชื่อนายกฯ ของพรรคการเมืองในสภาฯ หรือไม่นั้นเป็นประเด็นที่ต้องหารือหลังจากนั้น ทั้งนี้ในกระบวนการที่สำคัญของพรรคคือการส่งรายงานการเปลี่ยนแปลงจำนวนสมาชิกของพรรคตามที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมืองกำหนด ให้ส่งภายใน 90 วันนับจากที่พ.ร.ป.ฉบับดังกล่าวมีผลบังคับใช้ ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 5 มกราคม 2561 โดยขณะนี้ตนยังไม่ทราบว่าจะดำเนินการได้ทันหรือไม่ หากทำไม่ทันความเป็นพรรคการเมืองอาจสิ้นสภาพได้
พรรคชาติไทยพัฒนาเป็นพรรคขนาดกลาง การเลือกนายกฯ ปล่อยให้เป็นเรื่องของพรรคใหญ่ ซึ่งที่ผ่านมาพรรคยืนยันต่อหลักการเสียงข้างมาก ที่มีสิทธิ์เสนอชื่อบุคคลที่จะเป็นนายกฯ ให้สภาลงคะแนน อย่างไรก็ตามสถานะของพรรคคือเป็นผู้ที่ถูกเลือก ซึ่งคะแนนเสียงจะระบุกับเราว่าควรจะอยู่ตรงไหน นายวราวุธ กล่าว.