นายณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า เอาเข้าจริงๆ ประเด็นนี้ยังไกลเกินกว่าที่ทั้ง 2 พรรคจะให้ความชัดเจน พรรคเพื่อไทยก็ยังไม่รู้จะเจออะไรอีกบ้างก่อนถึงเลือกตั้ง ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่แน่ว่าจะคุยกันรู้เรื่อง เพราะเดี๋ยวนี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกปปส. ไปไกลถึงขั้นประกาศสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯ ตั้งแต่ไก่โห่ วันนี้แต่ละพรรคพูดชัดๆ กับประชาชนก่อนดีกว่าว่าเอาหรือไม่เอานายกฯ คนนอก และจะสนับสนุนการสืบทอดอำนาจหรือไม่ เพราะเรื่องพวกนี้เป็นการยืนยันหลักการประชาธิปไตย ถ้าหลักพื้นฐานยังทำให้ชัดไม่ได้ก็ไร้ประโยชน์ที่จะพูดเรื่องนี้กันต่อ ซึ่งถ้ามองตามข้อเท็จจริงก็พบว่าแกนหลักของพรรคเพื่อไทยหลายคนเคยพูดเรื่องนี้ แต่ไม่แน่ใจว่าพรรคประชาธิปัตย์เคยบ้างหรือไม่
นายสามารถ แก้วมีชัย อดีตส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีข้อเสนอให้สองพรรคใหญ่จับมือกันเพื่อต่อต้านนายกฯคนนอกว่า โดยหลักการแล้วฝ่ายประชาธิปไตย คือพรรคการเมืองที่มากจากการเลือกตั้ง ต้องเคารพเสียงประชาชนที่เลือกมา เรามีเสียงทั้งหมด 500 เสียง ก็ควรที่จะร่วมมือกัน เพื่อให้ได้นายกฯคนที่ประชาชนเลือก พรรคไหนได้เสียงข้างมากก็ควรได้เป็นนายกฯ แต่หากยังมีพรรคที่เห็นแก่ตัวเอง คอยรับใช้ฝ่ายเผด็จการ ก็จะได้นายกฯคนนอก
"ถ้า 500 คน ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ก็มีโอกาสที่จะได้นายกฯคนนอก ดังนั้นทุกพรรคจะต้องยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตย ผมเห็นด้วยในหลักการที่พรรคการเมืองต้องรวมกันสกัดกั้นนายกฯคนนอก แน่นอนว่าอาจมีพรรคการเมืองที่แตกแยกออกไปสนับสนุนฝ่ายที่ไม่ใช่ประชาธิปไตย จะต้องคอยติดตามดูกัน" นายสามารถ กล่าว