ฝากขัง "ครูจอมทรัพย์"

กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รักษาราชการแทนรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิเดชไพบูลย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม ยังคงร่วมประชุมหารือ กับคณะทำงานดำเนินคดีขบวนการรับจ้องทำผิดแทนครูจอมทรัพย์ ต่อเนื่อง โดยในเช้านี้จะได้เร่งหารือ ในการพิจารณารวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน รวมถึงพิจารณาฐานความผิดต่างๆ ให้ครบถ้วน เตรียมส่งอัยการฟ้องต่อศาล ตามขั้นตอนของกฎหมาย
ส่วนครูจอมทรัพย์ หรือนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาในคดี ได้มีการควบคุมตัวชั่วคราวสอบสวน หลังจับกุม ครบ 48 ชั่วโมงแล้ว โดยจะมีกำหนด นำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครพนม ก่อนเที่ยงวันนี้ ส่วนการประกันตัว ต้องรอติดตามว่าจะมีการยื่นประกันตัวในชั้นศาลหรือไม่ นอกจากนี้ยังมี ครูอ๋อง นายสุริยา นวลเจริญ อายุ 55 ปี ผู้ต้องหาคนสำคัญ ที่บงการจัดตั้งขบวนการ รับจ้างทำผิดแทน ภายหลังมีการจับกุมตัวได้ จะต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติมต่อเนื่องอีก ในวันนี้
ในส่วนที่เหลือ ทางตำรวจยังต้อง มีการพิจารณา ติดตามตัวมาดำเนินคดี เหลืออีก 2 คน จากทั้งหมด 8 คน คือ นายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร อายุ 55 ปี สามีครูจอมทรัพย์ ซึ่งวันนี้ทางตำรวจจะได้พิจารณา เกี่ยวกับข้อหาความผิด หากเชื่อมโยงเข้าข่าวร่วมเบิกความเท็จออกจะต้องมีการออกหมายจับ แต่ก่อนนี้ได้มีการออกหมายเรียกไปแล้ว ครบ 1 นัด 7 วัน
นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวถึงองค์ประกอบความผิดการเบิกความเท็จในคดีครูจอมทรัพย์ว่า ประเด็นดังกล่าวถือเป็นความผิด เมื่อเบิกความเท็จข้อสำคัญในคดี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 177
นายสราวุธกล่าวว่า คดีของครูจอมทรัพย์เข้าสู่กระบวนการรื้อฟื้นคดีไปแล้ว แต่ไม่สำเร็จ เนื่องจากผลของคำพิพากษาศาลฎีกาที่ออกมาไม่ได้เปลี่ยนแปลงคำพิพากษาเดิมที่เคยตัดสิน เพราะศาลฎีกาเห็นว่าพยานหลักฐานที่นำมาไต่สวนนั้นไม่ใช่พยานหลักฐานใหม่ โดยคดีนี้ไม่ใช่เรื่องแรกที่ผลออกมาเช่นนี้ ซึ่งคดีต่างๆ ศาลก็ได้พิจารณาทั้งข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย และหลักความน่าเชื่อถือของพยานและตรรกะความสมเหตุสมผล ขณะที่การทำหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมเราไม่ขอวิจารณ์กล่าวถึงหน่วยงานอื่น ศาลก็ทำหน้าที่ของเราอย่างเต็มที่ที่สุด.