โป๊ปฟรานซิสทรงมีกำหนดการเสด็จเยือนเมียนมาร์และบังกลาเทศนาน 6 วัน หลังทรงแสดงห่วงใยต่อชะตากรรมของชาวโรฮิงญากว่า 6 แสนคนที่หนีความรุนแรงในรัฐยะไข่ของเมียนมาร์เข้าไปยังชายแดนบังกลาเทศตั้งแต่ปลายเดือนส.ค.
โดยระหว่างที่พระองค์ประทับในเมียนมาร์ จะทรงพบหารือกับอองซาน ซูจี รัฐมนตรีต่างประเทศและที่ปรึกษาแห่งรัฐของเมียนมาร์ ที่ถูกวิจารณ์จากนานาชาติว่านิ่งเฉยต่อปฏิบัติการของกองทัพในการกวาดล้างชาวโรฮิงญาในรัฐยะไข่ครั้งล่าสุด รวมถึงจะทรงพบกับพลเอก มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมาร์
ความสำเร็จของการเสด็จเยือนครั้งนี้จะขึ้นอยู่กับว่า ชาวพุทธมีความคิดเห็นอย่างไร และอาจถูกจับตาว่าพระองค์จะทรงใช้คำว่า โรฮิงญา หรือไม่ ซึ่งคำนี้เป็นประเด็นอ่อนไหว เพราะรัฐบาลเมียนมาร์ไม่ยอมรับชาวโรฮิงญา และเรียกพวกเขาว่า เบงกาลี ซึ่งหมายถึง คนเข้าเมืองผิดกฎหมายจากบังกลาเทศ
การเสด็จเยือนครั้งนี้นอกจากจะมุ่งเน้นผลักดันการยุติวิกฤตชาวโรฮิงญาแล้ว พระองค์จะยังทรงให้ความสำคัญกับชุมชนชาวคริสต์ทั้งในเมียนมาร์และบังกลาเทศ ซึ่งประสบปัญหาการแบ่งแยกทางศาสนา และความรุนแรง