เชียงรายสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์เอฟเอคัพ

ฟุตบอล เอฟเอคัพรอบชิงชนะเลิศ ที่สนามศุภชลาศัย เป็นการพบกัน ระหว่าง สิงห์เชียงรายยูไนเต็ด ในชุด ส้มดำ พบกับ แบงค็อกยูไนเต็ด เกมนี้ซึ่งมีผู้ชมมากกว่า 1 หมื่นคน เป็นแบงค็อกยูไนเต็ด ที่ออกนำก่อน ในนาทีที่ 6 จากผลงานของ ปกเกล้า อนันต์ จากนั้นทางฝั่ง สิงห์เชียงราย ก็เดินเกมบุกเข้าใส่ เพื่อหวังเอาประตูคืน และมาทำได้ใน นาทีที่ 25 จากผลงานของ เอเวอร์ตัน กอนซัลเวส จบเกมในครึ่งแรก สกอร์ เสมอกันที่ 1 - 1
ในครึ่งหลัง เป็น สิงห์เชียงราย ที่ออกนำ ในนาทีที่ 58 จากผลงาน ของ ราฟาเอล โคเอลโญ สกอร์จึงพลิกมาเป็น 2-1 และในเกมต่างฝ่ายเริ่มมีจังหวะปะทะกันเกิดขึ้น จนนาทีที่ 71 สถาพร แดงสี จากแบงค็อกยูไนเต็ด ถูกไล่ออกจากสนาม จากจังหวะที่ไปปะทะเข้ากับ ปิยพล ผานิชกุล ของสิงห์เชียงราย และในนาทีที่ 73 เป็นแบงค็อก ที่มาตามตีเสมอเป็น 2-2 จาก เจย์ซี จอห์น
นาทีที่ 81 สิงห์เชียงราย ขึ้นนำอีกครั้ง จากการหลุดเดี่ยวเข้าไปยิงของ วานเดอร์ หลุยส์ สกอร์จึงมาอยู่ที่ 3-2 และในช่วงท้ายเกม เป็น นักเตะจาก สิงห์เชียงราย ที่ถูกใบแดงไล่ออกคือ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ถัดจากนั้น เป็น สรรวัชญ์ เดชมิตร จากฝั่งแบงค็อก ที่โดนใบแดง และในช่วงทดเวลา วานเดอร์ หลุยส์ จากทางสิงห์เชียงราย ถูก เอกชัย สำเร ของแบงค็อก เตะล้มในเขตโทษ กรรมการให้เป็นจุดโทษ
ขณะที่ เอกชัย ถูกให้ใบแดงเป็นรายที่ 3 ของ แบงค็อก และ ลูกโทษ เป็นวานเดอร์ หลุยส์ ที่ทำหน้าที่สังหาร และยิงเข้าไป จบเกม เป็น สิงห์เชียงราย ยูไนเต็ด ที่ชนะไป 4-2 คว้าถ้วยช้างเอฟเอคัพ เป็นแชมป์แรกของสโมสร นับจากก่อตั้ง พร้อมรับเงินรางวัล 5 ล้านบาท และได้สิทธิไปเล่นฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียส์ลีก