5 ทางเลือกส่ง"เป๊ป"ลุยตลาดรอบสอง
ออกมาประกาศชัดเจนว่าตลาดนักเตะรอบสองเดือนมกราคมนี้จะมีการเสริมทัพผู้เล่นใหม่อย่างแน่นอน สำหรับ เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือราศีจับที่สุดชั่วโมงนี้ของแมนเชสเตอร์ ซิต
หลังจบเกมพรีเมียร์ลีกนัดที่แมนฯ ซิตี บุกไปชนะ เลสเตอร์ ซิตี 2-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 18 พฤศจิกายน แม้จะเป็นการเก็บสามแต้มสำคัญที่ช่วยให้ช่องว่างบนตารางคะแนนยังห่าง 8 แต้มเท่าเดิม แต่ขณะเดียวกันชัยชนะที่คิงเพาเวอร์ ต้องแลกมาด้วยการเสียปราการหลังตัวกลางคนสำคัญอย่าง จอห์น สโตนส์
การบาดเจ็บครั้งนี้ทำให้อดีตเด็กสร้างเอฟเวอร์ตันจะพลาดลงสนามอย่างน้อย 1 เดือน มีสิทธิ์ชวดลงสนาม 11 นัด รวมถึงเกมลีก 2 นัดสำคัญกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด วันที่ 10 ธันวาคม และเกมพบ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ วันที่ 16 ธันวาคมนี้
ขณะเดียวกันเมื่อกวาดตามองไปยังขุมกำลังแนวรับชั่วโมงนี้เหลือเพียง แวงซองต์ กอมปานี กับ นิโคลัส โอตาเมนดี ที่เป็นตัวเลือกให้ "เป๊ป" ใช้งานในตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง
อย่างไรก็ตามปัญหามีไว้ให้แก้เสมอและทางออกของปัญหาส่วนใหญ่คลี่คลายได้ด้วยเงิน
ดังนั้นตลาดซื้อขายนักเตะรอบสองซึ่งจะเปิดทำการในเดือนมกราคมปีหน้า เราจะได้เห็นกองหลังหน้าใหม่ตบเท้าสู่รั้วอิติฮัดแน่นอน ซึ่งบางทีอาจจะเป็น 1 ใน 5 ราย ที่ยกตัวอย่างมาซึ่งอาจจะได้ชูเสื้อข้างนายใหญ่สแปนิชในวันเปิดตัว
โฆเซ ฆิเมเนซ (แอต.มาดริด)
เซ็นเตอร์ฮาล์ฟวัย 22 ปี ดีกรีทีมชาติอุรุกวัย ย้ายมาอยู่กับทีม "ตราหมี" แอตเลติโก มาดริด ตั้งแต่ปี 2013 หลังตัดสินใจย้ายจากดานูบิโอ สโมสรในบ้านเกิด ด้วยค่าตัวเพียง 1 ล้านปอนด์ (ราว 42 ล้านบาท)
ถึงตอนนี้จะไม่ใช่ตัวเลือกแรกของดิเอโก ซิเมโอเน ในตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง แต่การมี ฆิเมเนซ อยู่ในทีมก็ช่วยให้กุนซืออาร์เจนไตน์สามารถหมุนเวียนขุมกำลังแนวรับได้โดยไม่มีปัญหา เนื่องจากกองกลังดาวรุ่งรายนี้สามารถทดแทนทั้ง โกดิน และสเตฟาน ซาวิช ได้อย่างชนิดไร้รอยต่อ สังเกตได้จากตัวเลขการลงสนามที่ลงเล่นให้แอต.มาดริด ไปแล้วทั้งหมด 107 นัด นับรวมทุกรายการยิงไป 5 ประตู และแอสซิสต์อีก 6 ลูก ซึ่งในวัยขณะนี้ถือว่าทำได้ดีเกินตัวเลยทีเดียวสำหรับตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง
ปัญหาใหญ่ของเป๊ป และทีม "เรือใบสีฟ้า" ก็คือไม่ใช่แค่พวกเขาที่ให้ความสนใจกองหลังที่มีอายุการใช้งานระยะยาวรายนี้เพียงทีมเดียว เนื่องจากลิเวอร์พูล, อาร์เซนอล และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต่างก็จับตามองและจ้องจะคว้าตัวมาร่วมทีมเช่นกัน
คาลิดู คูลิบาลี (นาโปลี)
กองหลังร่างยักษ์ชาวเซเนกัล ย้ายจากราซิง เกงค์ ในเบลเยียม มาร่วมทีมนาโปลี เมื่อปี 2014 ด้วยค่าตัว 5 ล้านปอนด์ (ราว 200 ล้านบาท) แต่ในเวลานั้นเขาไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้เลยว่าเหมาะสมแก่การเป็นแนวรับตัวหลักของทีม อย่างไรก็ตามขึ้นชื่อว่าของแท้ยังไงก็ต้องมีวันได้ใช้งาน หลังจากผ่าน 3 ฤดูกาลกับทีมดังแห่งแดนใต้ของอิตาลี ตัวเลขลงรับใช้ทีมระบุไว้ที่ 137 เกม ยิงไป 5 ประตู และถูกยกให้เป็นหนึ่งในเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ดีที่สุดในลีกมะกะโรนี
ปัจจุบันด้วยวัย 26 ปี ถือเป็นช่วงเวลาที่กำลังก้าวสู่ช่วงที่ดีที่สุดของนักฟุตบอล และด้วยเหตุนี้จึงอาจเป็นงานยากของแมนฯ ซิตี อยู่เล็กน้อย กับค่าเสียหายที่น่าจะไม่ต่ำกว่า 60 ล้านปอนด์ หากคิดจะให้ นาโปลี ยอมปล่อยหัวใจในแนวรับของพวกเขาซึ่งถ้าไม่เชื่อก็ลองไปถาม เชลซี ดูได้ว่าทำไมซัมเมอร์ที่แล้วถึงยอมตัดใจจากกองหลังรายนี้
อายเมริค ลาปอร์เต (แอธ.บิลเบา)
ก่อนที่ จอห์น สโตนส์ จะย้ายมาประจำการแนวรับในถิ่นอิติฮัด สเตเดี้ยม เป๊ป กวาร์ดิโอลา เคยพยายามทาบทาบกองหลังเฟรนช์แมนรายนี้เมื่อปี 2016 แต่กลับถูกนักเตะตอบปฏิเสธ จนทำให้นายใหญ่ชาวสแปนิชต้องเปลี่ยนเป้าหมายไปคว้ากองหลังเลือดผู้ดีมาเสริมทัพแทน
ลาปอร์เต ถูกยกให้เป็นหนึ่งในกองหลังที่น่าจับตามองที่สุดคนหนึ่งบนเวทีลาลีกา สเปน ด้วยทักษะและความสามารถตามแบบฉบับปราการหลังยุคใหม่ที่ไม่ได้มีจุดเด่นเพียงแค่เกมรับแต่ยังสามารถเปิดเกมรุกให้ทีมได้ด้วย และสิ่งนี้เองที่ทำให้นายใหญ่ทีม "เรือใบสีฟ้า" พยายามจะกระชากตัวมาร่วมทีมให้ได้เพราะเป็นกองหลังที่ตรงสเปกและปรัชญาทำทีมของเขามากที่สุด
นับตั้งแต่เปิดตัวกับทีมเมื่อปี 2012 ปัจจุบัน กองหลังวัย 23 ปี ลงเล่นให้ทีมไปแล้วกว่า 200 นัด ตลอด 6 ฤดูกาลที่ผ่านมา แถมซีซั่นนี้ยังลงเล่นให้ทีมครบทุกนัดในลีก และหาก เป๊ป คิดจะหวนกลับมาเกี้ยวพาราสีรอบที่สองทั้งสื่อเมืองผู้ดีและสื่อแดนกระทิงดุต่างมองว่าต้องมีไม่ต่ำกว่า 70 ล้านปอนด์ (ราว 3,000 ล้านบาท) ในการเปิดโต๊ะเจรจากับทีมดังแห่งแคว้นบาสต์
สเตฟาน เดอ ฟราย (ลาซิโอ)
จากเด็กปั้นเฟเยนูร์ด ร็อตเธอร์ดัม ติดทีมชาติเนเธอร์แลนด์มาทุกชุด ไล่ตั้งแต่ชุด 16 ปี 17 ปี 19 ปี 20 ปี และ 21 ปี กระทั่งปัจจุบัน ในวัย 25 ปี เขาติดทีมชาติชุดใหญ่ไปแล้ว 31 ครั้ง และกลายเป็นปราการหลังที่เชื่อใจได้มากที่สุดของทัพอัศวินสีส้ม
เดอ ฟราย ถูกจัดให้เป็นกองหลังที่สมบูรณ์แบบจากการที่เขามีจุดเด่นในเรื่องลูกกลางอากาศและทักษะเล่นบอลบนพื้นได้ดี โดยตลอด 3 ฤดูกาลกับ "อินทรีฟ้าขาว" ลาซิโอ เขาลงเล่นให้ทีมไป 85 นัด แถมฤดูกาลนี้เพิ่งจะพลาดลงช่วยทีมในกัลโช เซเรีย อา ไปเพียงแค่ 2 นัด
ด้วยแบบฉบับกองหลังที่มีเด่นทั้งทางอากาศและภาคพื้นดิน จึงเป็นจุดแข็งที่น่าจะตอบโจทย์ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ได้ไม่ยาก แถมด้วยสัญญาที่กำลังจะหมดอายุลงในช่วงฤดูร้อนปีหน้าจึงน่าจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เขาได้ย้ายทีมในเร็วๆ นี้
เวอร์กิล ฟาน ไดค์ (เซาแธมป์ตัน)
คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณอะไรมากมายสำหรับเซ็นเตอร์ฮาล์ฟชาวดัตช์รายนี้ ซึ่งปัจจุบันกุนซือของทีมอย่าง เมาริซิโอ เปเยกริโน ก็ออกมายอมรับแล้วว่าคงเป็นเรื่องยากที่จะให้กองหลังรายนี้ฝากอนาคตไว้กับทีม
หลังจากกลายเป็นข่าวครึกโครมในตลาดซื้อขายรอบที่แล้วกับ ลิเวอร์พูล ล่าสุดโอกาสทีี่จะได้เห็น ฟาน ไดค์ เก็บข้าวของย้ายออกจากถิ่นเซนต์ แมรีส์ คงน่าจะเกิดขึ้นในอีกไม่นานนี้ และบางทีอาจขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นช่วงต้นหรือปลายเดือนมกราคมของปีหน้าเท่านั้น
แม้ตามข่าวระบุว่ากองหลังวัย 26 ปี ใจลอยไปอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ตั้งนานแล้ว แต่สถานการณ์ในตลาดนักเตะก็ไม่มีอะไรยืนยันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะตัวแปรสำคัญในเวลานี้คือค่าตัวของกองหลังรายนี้ โดยต้นสังกัดอย่างเซาแธมป์ตัน ตั้งไว้สูงถึง 70 ล้านปอนด์ (ราว 3,000 ล้านบาท) ซึ่งบางทีข้อได้เปรียบเดียวของเป๊ป กวาร์ดิโอลา และแมนฯ ซิตี ก็คือพวกเขาจ่ายได้มากกว่าที่ฝั่งหงส์แดงจะให้
ตลาดนักเตะซื้อขายรอบสองจะเปิดทำการอย่างเป็นทางการเมื่อปฏิทินตีบอกคริสต์ศักราชใหม่ และเมื่อนั้นเราจะได้เห็นกันว่า เป๊ป กวาร์ดิโอลา จะต้องใช้เงินเท่าไหร่ เพื่อแก้ปัญหาในการขาดแคลนกองหลังตัวหลักที่หายหน้าหายตาไปเป็นเวลา 1 เดือน