โดย นายวสันต์ สวนเลิศ อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 ถ.สุขเกษม ต.หน้าเมือง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า กำแพงที่ทางกรมศิลป์เข้ามาบูรณะจนเสร็จแล้วนี้ ดูใหม่จนเกินไปจนไม่ทิ้งอะไรที่เป็นของเก่าและมีคุณค่าทางจิตใจและทางประวัติศาสตร์เหลือเอาไว้ให้ดูเลย และยังกลบบ่อน้ำใช้โบราณที่ด้านหลังกำแพงเมืองไปด้วย เหมือนเป็นการลบร่องรอยทางประวัติศาสตร์ให้เลือนหายไป
ขณะที่ นายเมธาดล วิจักขณะ ผู้อำนวยการ สำนักศิลปากรที่ 5 ปราจีนบุรี ซึ่งดูแลรับผิดชอบโบราณสถานในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า การเข้ามาบูรณะกำแพงเมืองเก่าที่ จ.ฉะเชิงเทรา แห่งนี้ ได้ทำอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ โดยจะให้มีสภาพเหมือนเดิมให้ได้มากที่สุด เชื่อว่าอีกไม่นานหลังกำแพงปูนถูกแดดถูกฝน จนมีเชื้อราและตะไคร่เกิดขึ้น ก็น่าจะกลับมามีสภาพแบบเดิมได้ประมาณ 2-3 ปี
นายเมธาดล กล่าวว่า ทางกรมศิลปากรที่ 5 ได้ตั้งเต็นท์ประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนทราบ แต่ถูกพายุพัดเสียหาย ส่วนบ่อน้ำเก่าแก่เดิมที่เคยมีอยู่ที่ด้านหลังกำแพงเมืองนั้น ทางสำนักศิลปากรที่ 5 จะเข้ามาทำการขุดค้นสำรวจหาใหม่อีกครั้ง