"อ.เผ่าทอง" เดือด! คนไทยขีดเขียนหินโบราณจอร์แดน ผบห.โรงเรียนออกมาขอโทษแทนเด็กมือบอน

วันนี้ (22 พ.ย.) บนเฟซบุ๊ก Paothong Thongchua ของ อ.เผ่าทอง ทองเจือ ผู้เชี่ยวชาญด้านวัฒนธรรม ได้โพสต์ภาพหินสลักโบราณที่ประเทศจอร์แดนซึ่งมีลายตัวอักษรภาษาไทยปรากฏอยู่ โดยระบุว่า "ณ บริเวณแหล่งโบราณคดีก่อนประวัติศาสต์ ที่มีภาพสลักหิน และภาพลายเส้น อายุกว่า2000ปี ก็มีคนชาติไหนไม่ทราบ มาเขียนข้อความดังในภาพเอาไว้สดๆร้อนๆ เพียงแค่1วันก่อนหน้าที่ผมจะมาถึงที่นี่ เจ้าหน้าที่จอร์แดนฝากบอกคนเขียนให้ไปลบออกด้วย ไม่เช่นนั้นเขาจะประจานประเทศไทยและรร.ที่เขียนให้นักท่องเที่ยวทุกชาติทราบว่าประเทศไทยไม่ดูแลคุณภาพของคนในประเทศของตัวเอง"

หลังจากมีการแชร์เรื่องราวนี้ไป เพจดังบางเพจได้สืบหาต้นตอของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนพบเฟซบุ๊กของโรงเรียนแห่งหนึ่ง ปรากฏภาพและข้อความระบุว่าคณะผู้บริหารโรงเรียนกำลังไปศึกษาดูงานที่ประเทศจอร์แดน ทำให้มีการไปโจมตีในเพจโรงเรียนดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ในที่สุดมีการปิดเพจเป็นการชั่วคราว

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.30 น. คณะกรรมการสมาคมผู้บริหารโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามชายแดนใต้ นำโดย นายนัสรูดิน เล๊ะนุ๊ นายกสมาคมฯ ได้นัดคณะกรรมการมาพูดคุยประเด็นปัญหากรณีมีคณะของโรงเรียนซอลีฮียะห์ อ.โคกโพธิ์ จ ปัตตานี ซึ่งเป็นโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม สอนทั้งศาสนาและสามัญชั้นอนุบาลถึงชั้น ม.6 ได้เขียนข้อความลงบนที่ต้องห้ามในพื้นที่ประวัติศาสตร์ ที่ประเทศจอร์แดน และมีการวิพากษ์วิจารณ์ความไม่เหมาะสม ทำให้เสียชื่อเสียงโรงเรียน จ.ปัตตานี และประเทศชาติ

นายนัสรูดิน เล๊ะนุ๊ นายกสมาคมฯ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรืองใหญ่ กระทบต่อชื่อเสียงโรงเรียน จังหวัด และประเทศชาติ ซึ่งโรงเรียนดังกล่าวมีนายอับดุลเลาะ ยีเลาะ เป็นผู้รับใบอนุญาติดูแลโรงเรียนดังกล่าว และขณะนี้เดินทางไปทัศนศึกษาที่ประเทศจอร์แดน จึงได้โทรศัพท์สอบถามเรื่องดังกล่าว ซึ่งนายอับดุลเลาะ ยอมรับว่าไปจริง โดยมีลูกศิษย์เก่าที่เรียนอยู่ที่นั่นหลายสิบคน นำพาไปทัศนศึกษาหลายแห่ง โดยไม่ทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้น มาทราบภายหลังจากที่มีข่าวปรากฏ จนมีการโทรมาสอบถามมามาก รู้สึกตกใจ ไม่คาดคิด เพราะเที่ยวตามปกติ จึงได้สอบถามศิษย์เก่าที่ไปว่าใครเป็นคนเขียน ซึ่งมีผู้ยอมรับว่าเป็นคนเขียน แต่เป็นการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์

นายอับดุลเลาะอธิบายต่อนายนัสรูดินต่อว่า เพราะจุดดังกล่าว คนอื่นๆ ก็มีการเขียนอยู่แล้วหลายแห่ง เนื่องจากมีภาษาอื่นๆ หลายภาษา ไม่ใช่แค่เรากลุ่มเดียว แต่เราเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่ได้แกล้งทำ และจะนำบุคคลเหล่านั้นไปลบข้อความดังกล่าว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเดินทางเนื่องจากอยู่ไกล จึงขอโทษแทนเด็กๆ ด้วย ที่ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพรวม ต้องขอโทษจริง เพราะที่ผ่านมา เราไม่เคยทำให้เสียหาย และขอให้อภัยกับเด็กๆ เหล่านั้น ซึ่งได้ก็ได้บอกกล่าวสั่งสอนเด็กเหล่านั้นแล้ว ซึ่งเด็กก็เข้าใจ และขอโทษคนไทยและคนอื่นด้วย เพราะกระทำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ที่จอร์แดน และจะเดินทางกลับเร็วๆนี้