svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

คำพิพากษามัด "สับ วาปี" รับจ้างติดคุก

22 พฤศจิกายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หลังศาลฎีกายกคำร้อง การรื้อฟื้นคดีครูจอมทรัพย์ ซึ่งในคำพิพากษา ได้อธิบายถึงมูลเหตุของการรับสมอ้าง เพื่อรับผิดแทน เป็นตัวเลขสูงถึง 4 แสนบาท สุดท้ายคดีนี้ก็มีคำยืนยันจากพยานปากเอก ที่ไขปมปริศนาใครเป็นแพะ ใครเป็นแกะ ติดตามได้จากรายงานชิ้นนี้

คำเบิกความของนายสับ วาปี ในชั้นไต่สวนคำร้องขอรื้อฟื้นคดี ที่อ้างว่าในวันเกิดเหตุ ได้ขับรถกระบะ หมายเลขทะเบียน บค 56 มุกดาหาร ออกจากบ้านในตอนเช้าเพื่อตระเวรหาซื้อไม้ยูคาลิปตัส แต่ไม่ปรากฏรายละเอียดว่าไปหาซื้ออย่างไร ที่ไหน จากใคร และไม่ปรากฏรายชื่อบุคคล หรือ สถานที่ ที่สามารถตรวจสอบได้

ศาลฎีกาเห็นว่าหลักฐานของ นายสับ เลื่อนลอย และเมื่อหาซื้อไม้ทั้งวัน ไม่ได้น่าจะขับรถกลับบ้านก่อนค่ำ แต่กลับพบว่า นายสับ ยังคงขับรถตระเวนหาซื้อไม้จนมืดค่ำ จึงขับรถกลับ และเกิดอุบัติเหตุในเวลา 2 ทุ่ม ที่ อ.เรณูนคร จังหวัดนครพนม ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักของนายสับที่ อ.เมืองมุกดาหาร จังหวัดมุกดาหาร อีกไม่น้อยกว่า 60 กม. จึงดูไม่สมเหตุผล

กรณีที่นายสับ นำเงิน 170,000 บาท ไปชดใช้ให้กับลูกผู้ตายในคดีแพ่ง ที่เป็นโจทก์ฟ้องนางจอมทรัพย์ เป็นจำเลย เรียกค่าสินไหมทดแทนนั้น ศาลฎีกา เห็นว่า ยังมีข้อน่าสงสัย ที่มาของเงิน นำไปชดใช้ให้กับบุตรผู้ตาย เป็นเงินของนายสับจริงหรือไม่ จึงไม่ใช่หลักฐานสำคัญที่บ่งชี้ว่านายสับ ขับรถชนนายเหลือเสียชีวิต

อีกหนึ่งข้อมูลหักล้างคือ นายลัน โทนแก้ว ซึ่งเป็นพี่ภรรยาของนายสับ มาเป็นพยานเบิกความว่า นายสับ ขายรถกระบะ ทะเบียน 56 มุกดาหาร ให้กับเขา ตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ในชนนายเหลือ เสียชีวิต ดังนั้น นายสับ จึงไม่ได้เป็นผู้ครอบครองรถกระบะหมายเลขทะเบียน บค 56 มุกดาหาร วันเกิดเหตุ

ศาลฎีกาเห็นว่า จากการสืบพยานของฝ่ายผู้คัดค้านหลายปาก มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า มีขบวนการว่าจ้างให้นายสับ รับสมอ้างเป็นคนขับรถกระบะ หมายเลขทะเบียน 56 มุกดาหาร ไปเฉี่ยวชนรถจักรยานของนายเหลือ โดยเสนอค่าตอบแทนให้นายสับ 4 แสนบาท แต่เกิดเปลี่ยนใจไม่ทำตามที่ตกลงกันไว้

จึงมีการไปติดต่อ นายเสริฐ รูปสอาด ให้มารับสมอ้างเป็นคนขับรถกระบะ แทน โดยเสนอเงินให้ นายเสริฐ 200,000 บาท แต่ประเด็นคือ นายเสริฐ ขับรถยนต์ไม่เป็น หรือนายสับ เปลี่ยนใจกลับมารับสมอ้างอีกครั้ง จึงมีการดำเนินการให้นายสับมารับสมอ้างว่า เป็นคนขับรถกระบะ หมายเลขทะเบียน 56 มุกดาหาร ไปเฉี่ยวชนรถจักรยานของนายเหลือ จนเสียชีวิต

นอกจากนี้ยังพบพิรุธคำให้การของนายสับ ในช่วงของการรื้อฟื้นคดี จึงนำตัว นายสับและ นายสุริยา นวลเจริญ หรือ ครูอ๋อง เข้าเครื่องจับเท็จ พบว่าทั้งคู่ให้การเท็จ จึงตัดชื่อนายสัป ออกจากบัญชีพยานไม่นำขึ้นเบิกความในชั้นศาล และเน้นใช้พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาต่อสู้คดี

ส่วนคำให้การของนางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ และนางทองเรศ วงศ์ศรีชา เป็นประจักษ์พยานที่พบเห็นเหตุการณ์ และ ปรากฏในสำนวนของตำรวจตั้งแต่ต้น จึงไม่ใช่พยานใหม่ที่กระทรวงยุติธรรมค้นหามา ศาลฎีกาจึงยกคำร้องขอรื้อฟื้นคดี.

logoline