หนึ่งในทีมคุ้มครองมูกาเบ เปิดเผยว่า ตามความเข้าใจของเขา มูกาเบอาจเดินทางออกนอกประเทศในคืนนี้ หลังจากเหล่านายพลให้สัญญาเรื่องความปลอดภัย แต่ยืนกรานว่า เกรซจะต้องถูกดำเนินคดี ซึ่งเขาไม่รู้ว่าผลจะออกมาอย่างไร เพราะกองทัพยืนยันว่า จะให้อภัยแต่มูกาเบคนเดียวเท่านั้น ขณะที่เพื่อนของครอบครัวมูกาเบ บอกว่า เกรซ อาจถูกจับอย่างเป็นทางการที่คฤหาสน์ Blue Roof ที่เธอถูกกักบริเวณอยู่ในปัจจุบัน
เกรซถูกระบุว่า เป็นตัวการที่ทำให้มูกาเบต้องลงจากอำนาจ โดยเฉพาะความพยายามเขี่ยรองประธานาธิบดีเอมเมอร์สัน มนังกาวา ให้พ้นเส้นทางสืบทอดอำนาจต่อจากสามี ที่รวมถึงข้อกล่าวหาลอบวางยาพิษ ที่เธอปฏิเสธด้วย ซึ่งตอนแรกมนังกาวาได้หนีภัยการเมืองไปยังแอฟริกาใต้ และเพิ่งจะกลับมาหลังมูกาเบถูกกักบริเวณ และจ่อคิวขึ้นมานั่งรักษาการบริหารประเทศชั่วคราว ซึ่งโฆษกพรรคซานู-พีเอฟ ยืนยันว่า เขาจะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งผู้นำเฉพาะกาลในวันนี้ และจะอยู่ต่อไปจนครบวาระของมูกาเบ จนถึงการเลือกตั้งปีหน้า ส่วนบรรยากาศหลังการลาออกของมูกาเบ พบว่า นักการเมืองในอาคารรัฐสภา ประชาชนทั่วไปทั้งผิวขาวและผิวดำต่างสามัคคีกันดีใจสุดขีด
ปัจจุบัน มูกาเบกับเกรซยังอยู่ที่คฤหาสน์ Blue Roof และมูกาเบมีอาการเครียดจัดจนยกเท้าไม่ขึ้น และต้องเดินลากเท้า ส่วนเกรซไม่ยอมออกไปสูดอากาศภายนอก พวกเขาต่างรู้ชะตากรรมตัวเองและเครียดหนัก บรรดานายพลกำลังเดินหน้ากระบวนการดำเนินคดีเกรซในคดีอาญา รวมทั้ง ฟอกเงิน, ยักยอกทรัพย์สินของรัฐและแทรกแซงการทำงานของรัฐบาล
ส่วนชะตากรรมของลูกชายสองคนของพวกเขา คือ ชาตุนกา และโรเบิร์ต จูเนียร์ ยังคงเป็นปริศนา ทราบเพียงว่าพวกเขายังอยู่ในแอฟริกาใต้ และชาตุนกา ยังเคลื่อนไหวในโซเชียล มีเดีย โดยล่าสุด เมื่อวันจันทร์เขาเพิ่งโพสต์ภาพตัวเองเช็คโทรศัพท์