ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 พฤศจิกายน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผบ.ตร. พร้อมด้วยพล.ต.ท.ชัยวัฒน์ เกตุวรชัย ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช รรท.ผบช.น. พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 พ.ต.อ.ประสงค์ อานมณี ผกก.สส.บก.น.8 และเจ้าหน้าที่ตำรวจกก.สส.บก.น.8 แถลงผลการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดรายสำคัญพร้อมผู้ต้องหา 2 คน ไม่ขอเปิดเผยชื่อ-นามสกุล พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 10,310,000 เม็ด รถยนต์ 4 คัน โทรศัพท์มือถือ 4 เครื่อง โดยจับกุมได้ที่บ้านเลขที่ 33/433 ม.บางนาวิลล่า ซ.บางนา ตราด 39 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 21 พ.ย. 60 ต่อเนื่องบริเวณตรงข้ามร้านเซเว่น ภายในซ.บางนา ตราด 53 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เมื่อเวลา 04.30 น.
พล.ต.ต.อิทธิพล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่สืบทราบมาว่าผู้ต้องหาที่ 1 ไม่ขอเปิดเผยชื่อ มีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายยาเสพติด(ยาบ้า)รายใหญ่ จึงสืบสวนติดตามจนพบผู้ต้องหาขับขี่รถยนต์ยี่ห้อนิสสัน รุ่นมาร์ช สีเขียว ทะเบียน กบ 5074 กรุงเทพฯ ขับขี่เข้ามายังบ้านเลขที่ 33/433 ม.บางนาวิลล่า ซ.บางนา ตราด 39 ต.บางแก้ว อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นจุดพักยาเสพติด(ยาบ้า) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น ผลการตรวจค้นพบยาบ้าวางกระจัดกระจายเป็นจุดๆ อยู่บริเวณห้องโถงและห้องครัวบริเวณชั้นล่าง ซึ่งเป็นชนิดเม็ดสีส้มกลมแบน บรรจุในห่อกระดาษสีเหลือง ภายในมีห่อกระดาษสีขาว จำนวน 5 มัด แต่ละมัดบรรจุซองยาเสพติดแบบรูดปิด-เปิด จำนวน 10 ถุง แต่ละถุง บรรจุยาบ้า 200 เม็ด รวมห่อละ 10,000 เม็ด รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,031 ห่อ รวมยาบ้าจำนวนประมาณ 10,310,000 เม็ด
พล.ต.ต.อิทธิพล กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหาที่ 1 รับว่าเป็นยาบ้าของกลางที่รอจำหน่ายให้กับลูกค้าจริง และจะใช้รถยนต์อีก 3 คัน เพื่อเป็นยานพาหนะขนส่งยาบ้าของกลางให้กับลูกค้า และใช้ขนยาบ้าเข้ามาเก็บพักไว้บริเวณบ้านหลังดังกล่าว นอกจากนี้ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการจับกุมได้มีโทรศัพท์เข้ามาหายังโทรศัพท์ของผู้ต้องหาจึงได้ทำการสืบสวนขยายผลจนทราบว่าเป็นกลุ่มลูกค้าที่ติดต่อขอซื้อยาเสพติด จึงขยายผลส่งมอบยาเสพติดกระทั่งจับกุมผู้ต้องหาที่ 2 โดยได้ให้ผู้ต้องหาที่ 1 นัดส่งมอบยาเสพติดให้กับผู้ต้องหาที่ 2 จำนวน 5 แสนเม็ด บริเวณ ภายในซ.บางนา ตราด 53 เจ้าหน้าที่จึงวางกำลังเพื่อจับกุมผู้ต้องหาที่ 2 ขณะมารับยาเสพติด ต่อมาผู้ต้องหาที่ 2 ได้ขับขี่ รถยนต์ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเฟียสต้า สีขาว ทะเบียน กน 9540 ระยอง มาจอดบริเวรริมฟุตบาธตรงข้ามเซเว่นในซ.บางนา ตราด 53 พร้อมลงจากรถมาขนเอาถุงบรรจุยาบ้าที่วางกอง ริมฟุตบาธดังกล่าว แล้วนำขึ้นรถยนต์ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมยึดโทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง
พล.ต.อ.จักรทิพย์ กล่าวว่า จากจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการขยายผลหลังจากที่มีการจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้พร้อมของกลางยาบ้า 1 ล้านเม็ด ไอซ์ 400 กิโลกรัม ยาบ้าของกลางที่ตรวจยึดได้พบว่ามีการทยอยลักลอบขนส่งเข้ามาพักเก็บไว้ที่บ้านหลังดังกล่าวครั้งละ 2 แสนเม็ดต่อเดือน เพื่อรอลูกค้าติดต่อสั่งซื้อ โดยจะส่งต่อย่านปริมณฑล และยาบางส่วนจะส่งต่อในกรุงเทพฯ ยาล็อตนี้เข้ามาจากจ.ชัยนาทก่อนถูกนำมาพักไว้ที่ปากน้ำ ยาล็อตดังกล่าวจะมีสัญลักษณ์ 999 ซึ่งกลุ่มที่ผลิตจะเป็นกลุ่มว้า ว้าใต้และมูเซอร์ ทั้งนี้ตำรวจได้สกัดกั้นการเข้ามาของยาเสพติดทางภาพเหนืออย่างเข้มงวด ทำให้ขบวนการค้ายาได้เปลี่ยนเส้นทางการนำยาเข้ามาทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือแทน ผ่านทางแถบจ.นครพนม ทั้งนี้ตนได้สั่งการให้เพิ่มด่านตรวจทางแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือเพิ่มจากด่านที่มีอยู่แล้วอีก 4-5 ด่านเชื่อว่ายาเสพติดจะถูกนำมาพักไว้ก่อนส่งต่อไปทางภาคใต้ มูลค่ายาเสพติดที่ถูกจับกุมได้ครั้งนี้คิดเป็นเงินไทยประมาณกว่าหนึ่งพันล้านบาท หากถูกส่งต่อไปยังต่างประเทศมูลค่าสูงถึง2-3พันล้านบาท
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย กับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ภายหลังการแถลงข่าว พล.ต.อ.จักรทิพย์ ได้มอบภาพวาด ของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เป็นภาพพระพิฆเนศ ให้กับพล.ต.ท.ชาญเทพ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการทำงาน โดยการจับกุมครังนี้ถือเป็นล็อตใหญ่ที่สุดที่กองบัญชาการตำรวจนครบาลสามารถจับกุมมาได้ อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ จะมีการมอบภาพวาดของอาจารย์เฉลิมชัยให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับกุมขบวนการยาเสพติดรายสำคัญได้ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจต่อไป