คุก 8 ปี 6 เดือน "สาวทอม"ร่วมฟอกเงิน "สหกรณ์จุฬาฯ" สำนวนแรก

21 พ.ย.60 ศาลอ่านคำพิพากษาคดีฟอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์ คดีหมายเลขดำ ฟย.21/2560 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายสวัสดิ์ แสงบางปลา อายุ 79 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ อดีตประธานดำเนินการสหกรณ์จุฬา ฯ และ น.ส.เมธวัชร์ หรือพชกร คนมั่น อายุ 32 ปี ชาว จ.สระแก้ว สาวทอมคนสนิท เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐาน สมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อกระทำผิดขึ้นเกี่ยวกับการฟอกเงิน ฯ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542

โดยคดีนี้ อัยการยื่นฟ้อง เมื่อวันที่ 21 ม.ค.60 ระบุพฤติการณ์ความผิดจำเลยสรุปว่า เมื่อช่วงปี 53 - มี.ค.60 ต่อเนื่องกันจำเลยทั้งสองมีเจตนาทุจริตบังอาจหลอกลวงประชาชนทั่วไปด้วยข้อความอันเป็นเท็จว่า นายสวัสดิ์ ได้รับโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาล แต่เงินทุนไม่พอ จึงชักชวนผู้เสียหายและประชาชนทั่วไปมาร่วมลงทุน โดยจะได้รับค่าตอบแทนร้อยละ 10 -12 จนมีประชาชน และผู้เสียหายหลงเชื่อจำนวน 98 รายนำเงินมาร่วมลงทุนกับจำเลย 641ล้านบาทเศษ ทั้งที่ความจริงแล้วนายสวัสดิ์ ไม่ได้รับโควต้าสลากกินแบ่งรัฐบาลแต่อย่างใด อันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ซึ่งเป็นมูลฐานตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (3) จากนั้นจำเลยทั้งสองร่วมกันกระทำผิดฟอกเงิน โดยนายสวัสดิ์ ได้มอบหมายให้ น.ส.เมธวัชร์ จัดการเปิดบัญชีธนาคารพาณิชย์ ต่าง ๆ เพื่อรับเงิน - โอนเงินที่ได้จากการฉ้อโกงประชาชน และผู้เสียหายเพื่อซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินในชื่อของนายสวัสดิ์และน.ส.เมธวัชร์ ผ่านช่องทางอินเตอร์เน็ตนับร้อยครั้งโดยทุจริตเป็นเงินกว่า 62 ล้านบาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามได้ติดตามจับกุมจำเลยทั้งสองส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี โดยชั้นพิจารณานายสวัสดิ์ ให้การปฏิเสธในชั้นศาล

ส่วน น.ส.เมธวัชร์ ครั้งแรกให้การปฏิเสธ แต่เมื่อวันที่ 13 พ.ย.ที่ผ่านมาให้การรับสารภาพ ศาลจึงนัดพิพากษาเฉพาะในส่วนของ น.ส.เมธวัชร์ จำเลยที่ 2 เพียงคนเดียว

โดยศาลพิเคราะห์แล้ว เห็นว่า กระทำผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ ซึ่งเป็นความผิดหลายกรรมให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป

จึงพิพากษา ให้จำคุก น.ส.เมธวัชร์ 1 ปี ฐานสมคบกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไปเพื่อฟอกเงิน จำคุก 1 ปี และฐานร่วมกันฟอกเงิน จำคุกอีก8 กระทงๆละ 2 ปี รวม 16 ปี จึงจำคุก น.ส.เมธวัชร์ จำเลยที่ 2 เป็นเวลา 17 ปี จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่ง จึงจำคุก น.ส.เมธวัชร์ ไว้ทั้งสิ้น 8 ปี 6 เดือน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังฟังคำพิพากษาแล้ว น.ส.เมธวัชร์ ถูกควบคุมตัวไปยังทัณฑสถานหญิงกลาง ส่วนนายสวัสดิ์ อดีต ปธ.สหกรณจุฬาฯ นั้นให้การปฏิเสธสู้คดี ศาลให้พนักงานอัยการยื่นฟ้องนายสวัสดิ์เป็นคดีใหม่ ซึ่งศาลรับไว้เป็นคดีหมายเลขดำ ฟย.34/2560 โดยศาลนัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 22 ม.ค.61 เวลา 13.30 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับคดีฟอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาฯ ที่ศาลอาญา นัดฟังคำพิพากษาในส่วนของ น.ส.เมธวัชร์ คนมั่น วันที่ 21 พ.ย.นี้ จะถือเป็นจำเลยคนแรกที่ถูกตัดสิน จากคดีที่อัยการยื่นฟ้องจำเลยร่วมทั้งหมด 3 สำนวน โดยคดีประกอบด้วย สำนวนแรก คดีหมายเลขดำ ฟย.20/2560 ที่พนักงานอัยการคดีพิเศษ 2 ยื่นฟ้อง นายสวัสดิ์ , น.ส.จิรัชญาหรือไข่เจียว คุณยศยิ่ง อายุ 24 ปีเศษ ชาว จ.ชลบุรี และน.ส.ภวิษย์พร ใบเกตุ อายุ 29 ปีเศษ กทม.ซึ่งทั้งสองเป็นคู่รักกันเป็นจำเลยที่ 1-3 ฐานร่วมกันฟอกเงินสหกรณ์จุฬาฯ จำนวน 42 ล้านบาท โดยคดีเริ่มสืบพยานโจทก์นัดแรกในวันที่ 24 พ.ค.2561ซึ่งปัจจุบัน น.ส.จิรัชญาหรือไข่เจียว และน.ส.ภวิษย์พร ก็ถูกคุมขังอยู่ที่ทัณฑสถานหญิงกลางเช่นกัน

สำนวนที่ 2 คดีหมายเลขดำ อ.2483/2560 ที่พนักงานอัยการคดีเศรษฐกิจและทรัพยากร 2 ยื่นฟ้องนายสวัสดิ์ อดีตปธ.สหกรณ์ฯ เพียงคนเดียว เป็นจำเลยฐานกระทำผิด พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.2527 โดยศาลนัดตรวจพยานหลักฐานครั้งที่ 2 ในวันที่ 5 ก.พ.2561 เวลา 13.30 น.