รวบหนุ่มใหญ่! ลวงพริตตี้ถ่ายแบบ "มอมยา-รูดทรัพย์"

20 พ.ย. 60 เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ กองบังคับการตำรวจนครบาล 8 พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ ตงเต๊า ผบก.น.8 และ พ.ต.อ.มานพ สุคนธ์ธนพัฒน์ รอง ผบก.น.8 ร่วมกันแถลงข่าวผลงานฝ่ายสืบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ โดยสามารถจับกุมตัว นายนิพนธ์ หรือ "พนธ์" กล่ำเครือ อายุ 45 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี ผู้ต้องหามอมยาชิงทรัพย์ พร้อมของกลางรถยนต์ ฮอนด้า บริโอ้ สีขาว หมายเลขทะเบียน กฉ 6734 สมุทรสาคร โทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 จำนวน 1 เครื่อง ยานอนหลับ 2 เม็ด และตั๋วจำนำ จำนวน 1 ใบ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร

พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 31 ปี ผู้เสียหาย ซึ่งประกอบอาชีพช่างสักคิ้ว และเป็นนางแบบพริตตี้รับงานอิสระ ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ ว่า ในช่วงบ่ายวันเดียวกันถูก นายนิพนธ์ ผู้ต้องหา ใช้กลอุบายล่อลวงให้ไปถ่ายแบบเป็นพรีเซ็นเตอร์ครีมขัดผิวยี่ห้อหนึ่ง โดยนัดหมายให้ไปพบกันที่ห้องพักรายวันของอพาร์ทเม้นท์แห่งหนึ่งในซอยสุขสวัสดิ์ 40 เมื่อ น.ส.บี เดินทางไปถึง นายนิพนธ์ก็ดำเนินการถ่ายทำไปตามปกติ โดยอยู่กับผู้เสียหายสองต่อสองภายในห้องพัก จากนั้นเมื่อ น.ส.บี กินอาการและดื่มน้ำที่นายนิพนธ์จัดหามาให้ จึงเกิดอาการหมดสติไปชั่วครู่ และตื่นขึ้นมาปรากฏว่า โทรศัพท์มือถือไอโฟน 6 พระเลี่ยมทอง 3 องค์ และรถยนต์ ฮอนด้า บริโอ้ ซึ่งเป็นรถส่วนตัว สูญหายไป ด้วยความตกใจจึงรีบเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อดำเนินการจับกุมตัวนายนิพนธ์มาดำเนินคดี

ด้าน พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ กล่าวว่า หลังรับแจ้งความได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วราวัชร์ ธรรมสโรช ผกก.สน.ราษฎร์บูรณะ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธนูพล จินตาคม สว.สส.สน.ราษฎร์บูรณะ เร่งดำเนินการสืบหาตัว นายนิพนธ์ เนื่องจากถือว่าเป็นภัยสังคม จนกระทั่งพบเบาะแสว่า นายนิพนธ์ติดต่อนัดหมายซื้อขายรถมือสองกับลูกค้าคนหนึ่งที่ห้างสรรพสินค้าย่านราษฎร์บูรณะ เจ้าหน้าที่จึงรีบนำกำลังไปจับกุม ก่อนขยายผลไปตรวจยึดรถยนต์ ฮอนด้า บริโอ้ ของผู้เสียหายที่ อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี โดยรถนั้นอยู่ในสภาพกำลังถูกถอดเป็นอะไหล่ขายทอดตลาด จึงเชิญตัวนายนิพนธ์มาสอบปากคำและดำเนินคดีในข้อหาชิงทรัพย์ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ

"จากการสอบสวน นายนิพนธ์ให้การยอมรับว่า เคยประกอบธุรกิจเปิดร้านอาหาร แต่ตอนนี้ไม่มีงานทำ และเพิ่งลงมือก่อเหตุเป็นครั้งแรก โดยติดต่อไปหา น.ส.บี ผู้เสียหายทางโทรศัพท์เพื่อจ้างงาน และเดินทางไปเปิดห้องเช่ารายวันเอาไว้ล่วงหน้า ซึ่งใช้เป็นสถานที่ก่อเหตุ ก่อนใช้ยานอนหลับผสมให้ผู้เสียหายดื่มจริง แล้วนำรถผู้เสียหายไปฝากไว้ที่บ้านเพื่อนใน จ.ราชบุรี ส่วนพระเลี่ยมทอง 3 องค์ของผู้เสียหายนั้น นำไปจำนำเอาไว้ เพื่อหาเงินมาใช้จ่าย เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามไปเอาพระเลี่ยมทองมาคืนให้ผู้เสียหายโดยด่วน อย่างไรก็ตาม ชุดจับกุมไม่เชื่อคำให้การของนายนิพนธ์มากนัก เนื่องจากพฤติกรรมน่าเชื่อว่าเคยก่อเหตุลักษณะนี้มาก่อน จึงอยากประชาสัมพันธ์ให้ผู้เสียหายรายอื่นๆ ที่ไม่กล้าแจ้งความให้เดินทางมาอายัดตัวผู้ต้องหารายนี้ได้ที่ สน.ราษฎร์บูรณะ"

ขณะที่ น.ส.บี ผู้เสียหาย เล่าให้สื่อมวลชนฟังว่า ปัจจุบันมีอาชีพเป็นช่างสักคิ้ว โดยก่อนเกิดเหตุตนเคยนำประวัติและเบอร์โทรศัพท์ไปลงเว็บไซต์รับงานถ่ายแบบ และเป็นพริตตี้อิสระ จากนั้นเมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา นายนิพนธ์ได้ติดต่อมาหาตนเองทางโทรศัพท์ โดยมีการขอนัดดูตัวกันครั้งแรกที่ห้างสรรพสินค้าย่านศรีนครินทร์ โดยนายนิพนธ์อ้างว่า เป็นช่างภาพให้โมเดลลิ่งแห่งหนึ่งย่านพระราม 5 อยากจ้างงานให้ตนเป็นพรีเซ็นเตอร์ครีมขัดผิว และจะให้ค่าเหนื่อยจากการถ่ายแบบเพียงไม่กี่ชั่วโมง จำนวน 7,000 บาท เมื่อตนตกลงรับงาน นายนิพนธ์ก็นัดหมายให้ขับรถไปเจอที่ห้องเช่าภายในอพาร์ทเม้นท์รายวันในซอยสุขสวัสดิ์ 40 เมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา

"ได้เจอนายนิพนธ์มาแล้วครั้งหนึ่ง เลยค่อนข้างไว้วางใจ คิดว่าเป็นช่างภาพจริงๆ จึงเดินทางไปพบเพียงลำพัง โดยระหว่างที่ขึ้นห้องไปถ่ายภาพกับนายนิพนธ์ ตนเองสวมแค่ชุดกีฬาเสื้อรัดรูปและกางเกงขาสั้นธรรมดา ไม่ได้มีการสั่งให้เปลื้องผ้าแต่อย่างใด จนกระทั่งนายนิพนธ์ออกอุบายหลอกตนว่า อยากให้หน้าท้องยุบลงเล็กน้อยเพื่อให้ภาพออกมาดี ขอให้ตนกินอีโนผสมน้ำจำนวน 2 ซอง ที่นายนิพนธ์เตรียมเอาไว้ให้ เพื่อให้ขับลมออกมา และเมื่อตนดื่มเข้าไปก็ไม่ได้สติหลับไปนานประมาณ 30 นาที ทั้งนี้ เมื่อตื่นขึ้นมาพบว่าโทรศัพท์มือถือไอโฟน พระเลี่ยมทอง และรถเก๋ง ถูกนายนิพนธ์นำหลบหนีไปหมดแล้ว จึงตัดสินใจเข้าแจ้งความกับตำรวจ จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมตัวได้"