จากนั้น พ.ต.ท.นิพนธ์ เลิศพลรัตน์ รองผกก. ร.ต.อ.นิรุตต์ อุดใจ รองสารวัตรสอบสวน กำลังชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจ 191 เชียงราย นำตัวนายภัคภณ มณีจันสุข อายุ 19 ปี ชาวอำเภอแม่สรวย พร้อมสวมหมวกกันน็อคปิดบังใบหน้า มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่วัดร่องเสือเต้น หลังจากได้ก่อเหตุงัดตู้รับบริจาคภายในวัด และตู้เก็บเงินร้านค้า รวม 2 ครั้ง เหตุเกิดต้นเดือนพฤศจิกายน 2560 และกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้ ซึ่งได้เงินจากการงัดแงะไปประมาณ 5,000 บาท
โดยการทำแผนทางชาวบ้านได้ต่อว่าการกระทำของผู้ต้องหาและสาปแช่งที่โขมยเงินตู้รับบริจาคในวัดการทำแผนเริ่มที่ผู้ต้องหาขับรถมาจอดไว้ข้างกำแพงด้านหลังวัดก่อนแอบปีนกำแพงเข้าไปภายในวัด จากนั้นได้ตรงไปยังร้านค้าโดยสามารถได้เงินลิ้นชักจำนวนกว่า 1,000 บาท ก่อนหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 5 พ.ย.
จากนั้นวันที่ 7 พ.ย.ได้กลับมาลงมืออีกครั้ง โดยได้ปีนกำแพงหลังวัดเช่นเดิมและเข้ารื้อค้นลิ้นชักของร้านค้าต่างแต่ไม่พบของมีค้าจึงได้ไปงัดตู้บริจาค2ตู้ที่วางไว้หน้าห้องน้ำหญิง-ชายได้เงินไปประมาณ 4,000 บาทก่อนหลบหนีไปและมาลงมือก่อเหตุอีกครั้งในคืนถัดมาในวันที่ 8 พ.ย.โดยเข้ามาทางหน้าวัดเมื่อเข้ามาถึงจุดตู้รับบริจาคลูกนิมิตจะลงมืองัดแต่จังหวะเห็นกล้องวงจรปิดจึงเปลี่ยนใจและกลับออกไปแบบมือเปล่า ซึ่งกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพไว้ได้
ในคืนเดียวกัน(8 พย.) ก็ได้ก่อเหตุที่โรงเรียน ท.6 เทศบาลนครเชียงรายโดยได้เข้าไปงัดลิ้นชักและค้นของมีค่าในห้องธุรการได้ทรัพย์สินไปเล็กน้อยก่อนหนีไปกลบดานแต่ก็ถูกตำรวจมาตามจับกุมตัวได้ในที่สุดหลังจากมีการเผยแพร่ภาพผ่านสื่อมวลชน และในโลกโซเซียส รวมระยะเวลาการขยายผลจับกุมผู้ต้องหา 9 วัน ส่วนผู้ต้องหารับสารภาพไม่มีงานทำ แต่อยากมีเงินใช้เลยตะเวนขโมยเงินดังกล่าว