svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

สามีใหม่มอบตัวแล้ว หลังแทงสามีเก่า อ้างป้องเมียรัก

17 พฤศจิกายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตำรวจบ้านไผ่รวบผัวใหม่กลับใจโทรแจ้งขอมอบตัวหลังแทงผัวเก่าแล้วหลบหนี แค่พากันไปทวงกระเป๋าแต่ผัวเก่าถือไม้จะทำร้ายเมียรักจึงคว้าเหล็กแทงสวน



กรณีนายหัสดร ทินจันทร์ อายุ 35 ปี สามีใหม่ ใช้อาวุธของมีคมแทงตัดขั้วหัวใจ นายสะอาด คลังกลาง อายุ 43 ปี สามีเก่า เสียชีวิตที่บ้าน ต่อหน้านางวาสนา จิปูนาโพธิ์ อายุ 32 ปี อดีตภรรยา ที่พาสามีใหม่ไปมาทวงกระเป๋าเป้และโทรศัพท์มือถือคืนจากสามีเก่า จนเกิดการทะเลาะกัน และสามีใหม่ได้ใช้อาวุธมีคมแทงสามีเก่าตายคาบ้าน จากนั้นสามีใหม่หลบหนี เหตุเกิด ที่บ้านเลขที่ 118 หมู่ 8 บ้านหนองแวงยาว ต.หนองวัวซอ อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี เวลา 03.45 น.วันที่ 15 พฤศจิกายน


ความคืบเมื่อ เวลา 09.00 น. วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ต.อ.วิษณุ จันปุ่ม ผกก.สภ.หนองวัวซอ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ ตำรวจได้สอบสวนพยาน และรวบรวมหลักฐานขออนุมัติหมายจับศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ จ 324/2560 ข้อหา "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา" และออกสืบสวนติดตามนายหัสดร กระทั่งทราบผู้ต้องหาอยู่สถานีรถไฟบ้านไผ่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จึงประสานให้ พ.ต.อ.จำรัส จันทร์แดง ผกก.สภ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น นำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ ควบคุมผู้ต้องหากลับมาดำเนินคดี


ต่อมาเวลา 10.30 น. นายวิมล สุรเสน นายอำเภอหนองวัวซอ เดินทางมาร่วมสอบสวน นายหัสดร ผู้ต้องหา ที่ให้การรับสารภาพว่า ตนมีอาชีพรับจ้างปลูกอ้อย และขับรถบรรทุกอ้อย เป็นพ่อหม้าย เพิ่งรู้จักกับนางวาสนาฯ ที่เป็นแม่หม้ายได้ 5 วัน โดยทราบว่านางวาสนาฯ เลิกกับนายสะอาดฯได้ประมาณ 1 เดือน เนื่องจากถูกตบตีเป็นประจำจนทนไม่ไหว จึงขอแยกทางและหนีกลับไปอยู่บ้าน และมาพบกับตนขณะไปรับจ้างปลูกอ้อย ด้วยความเห็นใจ ตนกับนางวาสนาฯ จึงตกลงอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยาหลังรู้จักกันได้ 3 วัน พามาอยู่กินกันได้เพียง 2 วัน

ก่อนเกิดเหตุ หลังจากไปรับจ้างปลูกอ้อยเสร็จ ตนและนางวาสนาฯ ได้ชวนกันมานั่งดื่มเหล้าและเบียร์อยู่ในร้านอาหาร ซึ่งตอนนั้นนางวาสนาฯ เล่าให้ฟังว่า เมื่อ 2 วันก่อน ได้ไปเยี่ยมแม่ของผู้ตายที่ป่วยนอนอยู่บ้าน ตอนนั้นผู้ตายกลับมาจากทำไร่พอดี จึงหยิบเอากระเป๋าเป้ของนางวาสนาฯ ไป ข้างในมีโทรศัพท์มือถือ และเงินสด 1,200 บาท ที่เป็นเงินค่าจ้างปลูกอ้อย โดยนางวาสนาฯ ขอกระเป๋าคืน แต่ผู้ตายไม่ให้ จึงกลับมาบ้าน วันเกิดเหตุได้โทรศัพท์และไลน์แซทไป เพื่อขอกระเป๋าเป้และโทรศัพท์คืน ผู้ตายบอกให้มาเอาเองที่บ้าน ตนเห็นว่า นางวาสนาฯ ต้องการกระเป๋าเป้และโทรศัพท์คืน ตอนประมาณตี 3 คืนวันเกิดเหตุ จึงชวนตนเดินไปที่บ้านผู้ตายที่ห่างกันประมาณ 1 กม.

เมื่อไปถึงบ้าน นางวาสนาฯ ได้เรียกผู้ตายที่นอนอยู่บนชั้น 2 แต่แม่ของผู้ตายที่นอนป่วยอยู่ชั้นล่าง ได้เปิดประตูออกมาและสอบถาม ซึ่งนางวาสนาฯ บอกว่ามาเอากระเป๋าและโทรศัพท์ที่ผู้ตายยึดไว้คืน ขณะนั้นผู้ตายได้เดินลงมาจากบ้าน พร้อมกับถือท่อนไม้ลงมาด้วย และไม่มีการถามไถ่อะไร ซึ่งผู้ตายได้เงื้อไม้จะฟาดนางวาสนา ตนซึ่งยืนอยู่ใกล้ๆ จึงคว้าเอาท่อนเหล็กแป๊ปหลายแหลม ซึ่งวางอยู่ติดกับเสาบ้าน แทงสวนเข้าไป จนผู้ตายล้มลง จากนั้นตนก็หลบหนีแยกกับนางวาสนาฯ เอาท่อนเหล็กแป๊บปลายแหลม ไปทิ้งหนองน้ำสาธารณะหนองวัวซอ ที่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 1.5 กม.โดยไม่คิดว่านายสะอาดฯ จะเสียชีวิต


จากนั้นตนได้เดินกลับบ้าน กระทั่งนางวาสนาฯ โทรศัพท์มาบอกว่านายสะอาดฯ ตายแล้ว ตนตกใจจึงนั่งรถโดยสารหลบหนีไปที่ อ.ลำนารายณ์ จ.ลพบุรี เพื่อไปหลบซ่อนตัวที่บ้านลูกที่เกิดจากภรรยาเก่า แต่ลูกไม่ให้อยู่ด้วย เพราะรู้ว่าตนเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตาย ไม่รู้ว่าจะไปไหน จึงนั่งรถโดยสารกลับมาถึง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ก่อนจะโทรศัพท์ติดต่อขอมอบตัว โดยให้ตำรวจรอที่สถานีรถไฟอุดรธานี แต่ไม่นานตำรวจ สภ.บ้านไผ่ ได้มาจับกุมนำตัว ส่งตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.หนองวัวซอ ทั้งนี้ตนไม่ได้มีเจตนาจะไปฆ่าผู้ตาย ไม่ได้มีอาวุธอะไรติดตัวไป แต่เพราะเห็นผู้ตายจะทำร้ายนางวาสนาฯ จึงคว้าเหล็กที่วางอยู่ในบ้านแทงสวนไป

โดยทางตำรวจได้ให้นายหัสดรฯ ทำแผนแทงนายสะอาดฯ จนเสียชีวิตที่ห้องสอบสวน ไม่สามารถนำตัวไปทำแผนที่เกิดเหตุได้ เพราะญาติยังจัดงานศพนายสะอาดฯ อยู่ที่บ้าน เกรงว่านายหัสดรฯ จะไม่ปลอดภัย เสร็จแล้วนำตัวไปชี้จุดทิ้งเหล็กแป๊ปลายแหลม บริเวณหนองน้ำสาธารณะหนองวัวซอ ที่ถูกนายหัสดรฯ ปาทิ้งห่างจากฝั่งประมาณ 20 เมตร โดยทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ไม่สามารถดำน้ำลงไปได้ เพราะน้ำมีความลึกมาก จึงควบคุมตัวกลับโรงพักเพื่อดำเนินคดี ตามกฎหมาย ต่อไป

logoline