สำหรับในฤดูกาลหน้าเป้าหมายของสมาคม คือ การลดจำนวนทีมในไทยลีก ให้เหลือ 16 ทีม เพื่อจะทำให้ลีกมีคุณภาพมากขึ้น และการสนับสนุนต่างๆ เงินบำรุงทีม, เงินรางวัล รวมไปถึงเงินพิเศษที่ไว้ปรับปรุงสโมสรนั้น ก็จะมีการเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกันในทุกๆ ลีก ส่วนเรื่องของผู้ตัดสิน ในช่วงกุมภาพันธ์ พ.ศ.2561 สมาคมฯ เตรียมจะส่งผู้ตัดสิน 20 คน และผู้ช่วยผู้ตัดสินอีก 20 คนไปอบรมที่ประเทศอิตาลี โดยจุดสำคัญคือการเตรียมเพิ่มผู้ตัดสินที่ 5-6 ในฤดูกาลหน้า แน่นอนว่าต้องใช้ผู้ตัดสินเป็นจำนวนมาก และอาจจะมีการดันผู้ตัดสินจากไทยลีก2 มาเพิ่มเติมด้วย
"เรื่องของการใช้วีดีโอช่วยตัดสิน (Video Assistant Referee) นั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงถึงนัดละ 1.5 ล้านบาท หรือว่า โกลไลน์ ที่มีค่าใช้จ่ายราว 300-350 ล้านบาท ทำให้เป็นเรื่องยากที่สมาคมจะนำพวกเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ในการช่วยตัดสิน"
นายกลูกหนังไทย กล่าวเพิ่มเติมเรื่องของการล็อคผลการแข่งขันว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้ความร่วมมือและมีการทำงานร่วมกับสมาคมฯ ตลอดปีที่ผ่านมา เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ ซึ่งทำให้ได้รู้ว่าเรื่องของการล็อคผลการแข่งขันนั้นมีอยู่จริง ไม่ว่าจะเป็นบุคคลในวงการกีฬาต่างๆ ผู้บริหารสมาคมฯ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดผู้ตัดสินไปทำหน้าที่, ผู้มีอำนาจในวงการกีฬา จะด้วยวิธีการขู่เข็ญ หรือมีสิ่งของแลกเปลี่ยน ตลอดจนผลประโยชน์ต่างๆ ที่เกี่ยวพันถึงการพนันฟุตบอล โดยนายทุนหรือนักกีฬา
"ตอนนี้อยู่ในระหว่างการดำเนินการเพื่อให้ได้ตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย ทั้งนี้ ต้องรอจนกว่าการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสรุปออกมาว่ามีใครบ้างที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งตอนนี้ทุกอย่างจะต้องเก็บเอาไว้เป็นความลับก่อน เนื่องจากว่ามีบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก แต่จะพยายามทำเรื่องนี้ให้เสร็จสิ้นก่อนที่ฟุตบอลลีกฤดูกาลต่อไปจะเริ่มแข่งขัน ซึ่งความชัดเจนทั้งหมดจะรอให้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ เดินทางถึงประเทศไทย แล้วจะมีการแถลงข่าวอีกครั้งหนึ่ง" บิ๊กอ๊อด กล่าว
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวปิดท้ายว่า คนที่ผิดก็ต้องว่ากันไปตามผิด ไม่มีการช่วยเหลืออะไรทั้งสิ้น จะถูกลงโทษตามกฎหมาย และการดำเนินการครั้งนี้จะไม่ใช่ครั้งแรกและครั้งเดียว เพราะตราบใดที่ตนยังอยู่ในสมาคมฯ ก็จะยังคงดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป เพื่อขจัดการล็อคผลการแข่งขันให้หมดลง อย่างไรก็ตามทั้งหมดไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่ตัวสมาคมฯเท่านั้น มันขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด