"ซิมบับเว" อึมครึม กักบริเวณ "มูกาเบ"

มีการบุกยึดสถานีโทรทัศน์ที่เป็นกระบอกเสียงของรัฐบาล และกองทัพนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการปฏิเสธว่า ไม่ได้ก่อรัฐประหารและมูกาเบปลอดภัย ส่วนอดีตรองประธานาธิบดีเอมเมอร์สัน มานังกากวา วัย 75 ปี ที่ถูกมูกาเบปลดเมื่อต้นเดือนและลี้ภัยไปต่างประเทศ ตอนนี้ได้กลับมาแล้ว 
อังกฤษและสหรัฐฯ ได้เตือนพลเมืองที่อยู่ซิมบับเว ไม่ให้ออกนอกที่พัก ประธานาธิบดีจาค็อบ ซูมา ของแอฟริกาใต้ ได้พูดคุยกับมูกาเบทางโทรศัพท์ และบอกว่า เขาสบายดีเพียงแต่ถูกกักบริเวณ ส่วนนางเกรซ สุภาพสตรีหมายเลข 1 มีข่าวว่าไปอยู่นามิเบีย หลังได้รับอนุญาตให้เดินทางออกนอกประเทศเมื่อคืนวันพุธ 
ขณะนี้ดูเหมือนว่ากองทัพจะทำให้เส้นทางการครองอำนาจที่ยาวนานถึง 37 ปี ของมูกาเบ ผู้นำที่ชราภาพที่สุดในโลกในวัย 93 ปี ต้องสิ้นสุดลง ในขณะที่ผู้สนับสนุน
กองทัพพากันยกย่องว่า เป็นการเข้ามา "แก้ไข โดยปราศจากการสูญเสียเลือดเนื้อ" และมูกาเบกำลังตกอยู่ในภาวะจำยอมให้ต้องส่งมอบอำนาจให้แก่อดีตรองประธานาธิบดีที่ถูกเขาปลด เพื่อทำให้การเข้ามาของทหาร กลายเป็นเรื่องถูกต้องตามกฎหมาย 
การปลดมานังกากวา ซึ่งมีชื่อเล่นว่า "Crocodile หรือ จระเข้" ก็เพื่อเปิดทางให้นางเกรซ วัย 52 ปี ผู้ที่ชาวซิมบับเวไม่ชอบเอามากๆ เพราะมักจะละลายเงินไปกับการซื้อรถหรู, แมนชั่น อัญมณี และมีนิสัยรักการช็อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนม จนได้ฉายาว่า "กุซชี่ เกรซ" สืบทอดตำแหน่งต่อจากสามี โดยเหล่าทหารระดับสูงในกองทัพไม่เห็นด้วย 
แต่นักวิเคราะห์ยังเชื่อว่า ทหารกำลังเจรจากับทั้งมูกาเบและมานังกากวา และทางออกที่ง่ายที่สุด คือการที่มูกาเบแต่งตั้งมานังกากวาให้กลับมาเป็นรองประธานาธิบดี ก่อนจะลาออกไป ซึ่งรัฐธรรมนูญของซิมบับเว บัญญัติให้รองประธานาธิบดีขึ้นมารักษาการแทนเป็นเวลา 90 วัน