อดีตสารวัตรแจกการ์ดเชิญร่วมงานศพตัวเอง

เมื่อเวลา 11.30 น. ของวันนี้ (15 พ.ย. 60) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปตรวจสอบยังบริเวณวัดศาลาดิน หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่าวัดมอญ ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.ม่วงเตี้ย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง หลังทราบว่าที่วัดดังกล่าวได้มีป้ายแจ้งงานฌาปนกิจศพล่วงหน้า ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวยังมีชีวิตอยู่ โดยเมื่อเดินทางไปถึงก็พบป้ายดังกล่าวเป็นป้ายสีขาวดำขนาดใหญ่ ติดอยู่หน้าวัดเห็นได้อย่างชัดเจน โดยมีข้อความว่าเป็นงานฌาปนกิจศพ พ.ต.ท.เกษตร พึ่งยอด อดีตข้าราชการตำรวจสารวัตรป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง (ยังมีชีวิตอยู่) อายุ 67 ปี โดยมีกำหนดฌาปนกิจศพในวันอังคารที่ 19 ธันวาคม 2560 ที่จะถึงนี้

จากการสอบถาม พ.ต.ท.เกษตร อดีตสารวัตรป้องกันและปราบปรามคนดังอ่างทองดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ กล่าวว่า ตนเคยทำงานเป็นตำรวจและได้ปลดเกษียณมาหลายปีแล้ว โดยก่อนหน้านี้ตนได้บริจาคร่างกายเพื่อเป็นอาจารย์ใหญ่ให้กับทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ซึ่งเมื่อถึงเวลาจริงหากตนเสียชีวิตก็จะส่งร่างไปทางโรงพยาบาล หลังจากทางโรงพยาบาลนำไปใช้เป็นอาจารย์ใหญ่เสร็จสิ้น ตนก็แจ้งให้ทางโรงพยาบาลทำการพระราชทานเพลิงศพได้เลย เนื่องจากตนใช้ชีวิตเพียงคนเดียว ไม่มีภรรยา และไม่มีลูก มีเพียงแต่ญาติพี่น้องเท่านั้น

จากเหตุผลดังกล่าวตนจึงมีความคิดที่จะจัดงานศพให้ตัวเอง ประกอบกับไปดูหมอดูว่าจะทำพิธีเสริมชะตาให้ตัวเอง โดยคุยกันว่าจะทำตอนอายุ 72 ปี จะเหมาะมั้ย ซึ่งทางหมอดูบอกให้ทำเลย ตนจึงได้เริ่มดำเนินการโดยการมาหาฤกษ์ดำเนินการ ซึ่งฤกษ์ดีไม่ต้องไปดูจากที่ไหน ตนใช้วิธีถามชาวบ้านว่าอยากให้มีมหรสพอะไรหากตนจะจัดงานศพ ซึ่งชาวบ้านอยากดูลิเก ตนจึงได้จัดหาลิเก แล้วทำการ์ดงานศพและนำไปแจกให้ญาติมิตร และเพื่อนพ้อง โดยงานศพของตนจะจัด 2 วัน โดยวันแรกวันที่ 18 ธ.ค. เป็นงานสวดพระอภิธรรม ก่อนที่จะทำการฌาปนกิจในวันที่ 19 ธ.ค. ที่จะถึงนี้

พ.ต.เกษตร กล่าวต่อว่า เงินที่ได้จากการจัดงานศพทุกบาททุกสตางค์ตนจะไปแบ่งเป็นส่วน ๆ บริจาคให้โรงเรียน 10 โรงเรียนในชุมชน โรงเรียนละ 10,000 บาท และอีกส่วนตนทราบมาว่าที่วัดดอนรัก อ.สามโก้ จ.อ่างทอง จะดำเนินการไปทำบุญหล่อพระรูปเหมือนหลวงพ่อภูที่วัดดังกล่าว โดยประเมินไว้ขั้นตนที่ 350,000 บาท โดยหากเงินเหลือพอตนก็จะบริจาคหล่อพระทั้งหมด แต่หากไม่พอตนก็จะควักเงินส่วนตัวสมทบไปให้พอ ซึ่งก็มีชาวบ้านหลายคนหาว่าตนบ้า ที่ทำแบบนี้ แต่ตนศรัทธาและยากจะทำบุญจริง ๆ ก็เลยไม่คิดอะไรมาก