svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

ส่งทีมเด็ก..ไปเตะซีเกมส์ ได้ไม่คุ้มเสีย!?

15 พฤศจิกายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กลายเป็นประเด็นขึ้นมาจนได้ครับ สำหรับนโยบายของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ที่มีแนวทางกับการเตรียมฟุตบอลทีมชาติ เข้าแข่งขันในรายการสำคัญ

ไม่ว่าจะเป็นซีเกมส์ ครั้งต่อไปในปี 2019 ที่ประเทศฟิลลิปปินส์ เป็นเจ้าภาพ หรือ แม้แต่ทัวร์นาเม้นท์ เฉพาะหน้า อย่างเอเอฟเอฟซูซูกิคัพ ในปี 2018 คนโตจากค่ายหัวหมากอย่าง ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ( กกท. ) คุณสกล วรรณพงษ์ ออกมาแตะเบรกเรื่องนี้ที่เป็น"ประเด็น" เพราะว่า แนวคิดในการวางตัวผู้เล่นฟุตบอลทีมชาติไทย ที่จะส่งเข้าแข่งขันกับทั้ง 2 รายการ คือ การตกผลึก ทางความคิด ที่เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ทั้ง พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย และประธานฝ่ายพัฒนาเทคนิค สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คุณวิทยา เลาหกุลคือ ต้องการให้นักกีฬา ที่ส่งเข้าแข่งกับรายการเหล่านี้ เป็นการคัดเลือกเอานักกีฬา ที่มีอายุต่ำกว่าเกณฑ์ ที่กำหนดไว้เข้าแข่งขันอธิบายง่ายที่สุด คือทีมชาติไทย พร้อมที่จะแบกรับอายุ ด้วยการไม่ส่งทีม ตามโครงสร้างของระบบการแข่งขันที่ถูกกำหนดไว้ อย่างรายการ เอเอฟเอฟซูกิคัพ ที่เดิมเราขนผู้เล่นชุดใหญ่ ในแบบไม่จำกัดอายุเข้าแข่งขัน แต่ต่อไปจะเป็นการส่งผู้เล่นที่มีอายุต่ำกว่าเข้าแข่งขัน เช่น ทีมชาติชุดอายุ 23 ปีด้วยเหตุผลที่ผู้บริหารสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ เชื่อว่า นี่คือโอกาสของการให้ประสบการณ์การณ์ ต่อผู้เล่นทีมชาติไทยชุดนี้ ที่จะก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นชุดใหญ่ แม้ว่าจะต้องแบกน้ำหนักเมื่อเทียบกับคู่แข่งก็ตามแนวคิดที่จะส่งผู้เล่นอายุต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด เข้าแข่งขัน เป็นการเอาบทเรียนจากซีเกมส์ 2017 ที่มาเลเซียมาใช้ เพราะเห็นว่าเหล่าผู้เล่นดาวรุ่งเหล่านี้ แม้ว่าจะทำผลงานด้วยการเป็นแชมป์ซีเกมส์ แต่ก็ยังมีการบ้านหลายอย่างที่ต้องแก้ไข โดยเฉพาะการได้สัมผัสกับประสบการณ์โดยตรง กับทัวร์นาเม้นท์ที่หลากหลาย อันจะนำไปสู่การสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งแนวคิดนี้ของทางสมาคมกีฬาฟุตบอล ถึงกับเป็นการออกตัวล่วงหน้าว่า ผลงานของฟุตบอลทีมชาติไทย ภายใต้โครงสร้าง" แบกน้ำหนัก" อาจจะไม่ประสบความสำเร็จกับผลงาน เพราะต้องซื้อเวลา แต่ก็ขอให้ทุกฝ่ายเข้าใจ ถึงเหตุผลที่ต้องเลือกแนวทางนี้ทันทีที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯประกาศออกไปถึงแนวคิดนี้ ก็ยังไม่ได้เป็นที่วิจารณ์มากมายนัก กระทั่งผู้ว่าการ กกท. คุณสกล ที่ออกมาติงอย่างตรงไปตรงมากับเรื่องนี้ ว่าเสียมากกว่าได้ และถึงขั้น จะขอคุยกับทางสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ หากยังคงที่จะเดินหน้ากับแนวทางนี้ซึ่งที่มาของการแตะเบรกจาก "ผู้ว่าสกล" อยู่ที่ งบประมาณการเตรียมกีฬา เข้าแข่งขันในรายการสำคัญ ไม่ว่าจะซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์งบประมาณเหล่านี้ ล้วนมาจากงบอุดหนุนของภาครัฐ ที่ส่งต่อไปให้กับสมาคมกีฬาแต่ละสมาคม ผ่านทางกกท. ดังนั้นหากส่งทีมกีฬาไปแข่งขันแล้ว ไม่สามารถคาดหวังการทำผลงานได้ ในแง่ของหน่วยงานภาครัฐ ที่กำกับการพัฒนากีฬา อย่างกกท. จึงอยู่เฉยไม่ได้กระทั่ง ผู้ว่าฯสกล ออกมาวิจารณ์ด้วยตนเอง และแสดงความต้องการที่จะขอคุยกับทางสมาคมกีฬาฟุตบอล ที่เป็นต้นคิดเรื่องนี้อย่างจริงจึง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ต้องนำไปทบทวนแล้วครับ ว่าจะเลือกแนวทางอย่างไร ที่จะเหมาะสมที่สุด

logoline