เหยื่อแผ่นดินไหว อิรัก - อิหร่าน พุ่ง 455
เหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 7.3 แม็กนิจูด ในบริเวณพรมแดนอิรักกับอิหร่าน ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 455 คน บาดเจ็บราว 7,730 คน และนับเป็นเหตุแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในอิหร่านในรอบกว่า 1 ทศวรรษ ประชาชนจำนวนมาก ต้องไร้ที่อยู่อาศัยในช่วงเริ่มต้นฤดูหนาว ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงค้นหาประชาชนที่ติดอยู่ใต้ซากอาคารที่พังถล่มในหลายหมู่บ้านและหลายเมืองในพื้นที่บริเวณภูเขาในจังหวัดเคอร์มานชาห์
สถานีโทรทัศน์อิหร่าน รายงานว่า เขตซาร์โปล-อี ซาฮับ ที่อยู่ห่างจากจากพรมแดนอิรักราว 15 ก.ม. ได้รับผลกระทบหนักที่สุด โดยมีผู้เสียชีวิตสูงกว่า 300 คน โรงพยาบาลแห่งเดียวของเขตก็ได้รับความเสียหายอย่างหนัก กองทัพจึงต้องตั้งโรงพยาบาลสนามนอกจากนี้ ดินถล่มยังเป็นอุปสรรคต่อการกู้ภัย ซึ่งเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์ ระบุว่า ต้องการผ้าห่ม เสื้อผ้าเด็ก เวชภัณฑ์และถังน้ำขนาดใหญ่เพื่อเก็บกักน้ำดื่ม
อยาตอลลาห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านได้แสดงความเสียต่อเหยื่อแผ่นดินไหวและเรียกร้องให้ทุกหน่วยงานของรัฐ ดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยขณะที่สถานีโทรทัศน์ของรัฐ ได้ขอรับบริจาคโลหิต และประกาศไว้อาลัย 3 วัน
ส่วนฝั่งอิรัก มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คน บาดเจ็บ 535 คน โดยทั้งหมดอยู่ที่เขตกึ่งปกครองตนเองของชาวเคิร์ด "สุเลย์มานิยาห์" ซึ่งชาวอิหร่านพากันสงสัยที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตของสองประเทศต่างกันสิ้นเชิง และสิ่งปลูกสร้างของอิหร่านที่เสียหายสร้างใหม่ในสมัยอดีตประธานาธิบดีมาห์มุด อาห์มาดีเนจ๊าด ส่วนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ก็ถูกจับผิดเช่นกัน ว่ายังไม่ได้มีความเห็นใดๆ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งที่เขาทวี้ตเรื่องการไปเยือนฟิลิปปินส์ตั้งหลายครั้ง