เหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7.3 แม็กนิจูด บริเวณพรมแดนคั่นระหว่างอิรักกับอิหร่านทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 200 คน และบาดเจ็บราว 1,800 คนแล้ว ขณะที่หน่วยงานบรรเทาทุกข์ ระบุว่า มีผู้ประสบภัยที่ต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน 70,000 คน
ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่เมืองซาร์โปล-อี ซาฮับ ในจังหวัดเคอร์มานชาห์ ทางตะวันตกของอิหร่าน และอยู่ห่างจากพรมแดนอิรักราว 15 ก.ม. ส่วนอิรักมีผู้เสียชีวิตเพียง 6 คน ที่จังหวัดสุเลย์มานิยาห์ เขตกึ่งปกครองตนเองของชาวเคิร์ด ทางตอนเหนือของประเทศ
สถานีโทรทัศน์ของอิหร่าน รายงานภาพความเสียหายของโรงพยาบาลในเมืองซาร์โปลอี ซาฮับ ซึ่งกลายอุปสรรคต่อการรักษาผู้บาดเจ็บหลายร้อยคน สภาเสี้ยววงเดือนแดง หรือ กาชาดอิสลาม รายงานว่า มีหมู่บ้านได้รับความเสียหายอย่างน้อย 8 แห่ง และบางแห่งถูกตัดขาดจากการคมนาคมสื่อสารและไฟฟ้าดับ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเผชิญอุปสรรคจากดินถล่ม และสถานการณ์อยู่ในขั้นวิกฤตอย่างยิ่ง
แผ่นดินไหวครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อเวลา 21.18 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือราว 02.18 น. ตามเวลาในไทย โดยมีศูนย์กลางอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 33.9 ก.ม. และแรงสั่นสะเทือนสามารถรับรู้ได้ไกลถึงตุรกี อิสราเอล คูเวตและกาตาร์ ขณะที่ที่ตั้งของอิหร่าน มีรอยเลื่อนขนาดใหญ่หลายรอยพาดผ่าน ทำให้เผชิญแผ่นดินไหวหลายครั้ง โดยเฉพาะเมื่อปี 2546 ได้เกิดแผ่นดินไหวที่เมืองประวัติศาสตร์ "บาม" ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 26,000 คน
แม้อิรักจะไม่ได้ตั้งอยู่ในแนวรอยเลื่อน แต่แรงสั่นสะเทือนทำให้ผู้คนพากันวิ่งออกไปที่ถนนด้วยความตื่นตระหนกและการจราจรบนถนนติดขัด