ความคืบหน้ากรณีที่ชาวบ้านหมู่ 8 บ้านหนองบอน ต.คูเมือง อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ กว่า 100 คน มารวมตัวกันที่วัดหนองคูบอน เพื่อร้องเรียนให้ตรวจสอบ พระอธิการสมพงษ์ เจ้าอาวาสวัดหนองคูบอน โดยกล่าวหาว่าเจ้าอาวาสมีพฤติกรรมบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส ทั้งมีพฤติการณ์รับจัดไฟแนนซ์ และปล่อยเงินกู้ให้กับชาวบ้านรายละ 5,00030,000 บาท โดยเก็บอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 3 บาทต่อเดือน โดยมีหลักฐานการทำหนังสือสัญญาเงินกู้อย่างชัดเจน ซึ่งชาวบ้านมองว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องเหมาะสม พร้อมนิมนต์ให้เจ้าอาวาสรูปดังกล่าวออกจากพื้นที่ ซึ่งเบื้องต้นทางรองเจ้าคณะอำเภอคูเมือง ก็ได้เข้ามาเจรจาพร้อมรับเรื่องจากชาวบ้าน เพื่อนำเสนอรายงานไปยังเจ้าคณะปกครองสงฆ์ตามขั้นตอน
นายประสงค์ ทองประ นักวิชาการศาสนาชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า เบื้องต้นยังไม่ได้รับหนังสือร้องเรียนจากชาวบ้าน เพียงได้รับทราบข้อมูลที่ปรากฏเป็นข่าวเท่านั้น อย่างไรก็ตามหากได้รับเรื่องร้องเรียนเป็นลายลักษณ์อักษร ก็จะร่วมกับคณะสงฆ์ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง ตามที่มีการร้องเรียน ส่วนที่ชาวบ้านนำหนังสือสัญญาเงินกู้ที่มีลายมือชื่อของชาวบ้านผู้กู้ และลายมือชื่อของเจ้าอาวาสผู้ให้กู้ยืม มาเป็นหลักฐานนั้น ก็จะต้องตรวจสอบว่าเป็นลายมือชื่อของเจ้าอาวาสจริงหรือไม่
ซึ่งหากตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นเอกสารตัวจริงและเจ้าอาวาสยอมรับ ทางคณะปกครองสงฆ์ก็จะต้องเป็นผู้พิจารณาว่าการกระทำในลักษณะดังกล่าว ผิดพระธรรมวินัยหรือไม่ และมีความผิดสถานใด และจะต้องลงโทษอย่างไร หากเป็นสถานเบาก็อาจจะแค่ตักเตือน ตำหนิให้หยุดการกระทำดังกล่าว แต่หากคณะสงฆ์พิจารณาแล้วว่าเป็นความผิดร้ายแรง ก็อาจจะให้ลาสิขา หรือปลดออกจากตำแหน่ง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าคณะปกครองสงฆ์ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง ทางสำนักพุทธไม่มีอำนาจตัดสิน
ที่ผ่านมายังไม่เคยปรากฏเรื่องร้องเรียนในลักษณะดังกล่าวมาก่อน ส่วนมากก็จะเป็นการร้องเกี่ยวกับการบริหารจัดการเงินวัดไม่โปร่งใส หรือพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างอื่น แต่เรื่องพระปล่อยเงินกู้ยังไม่เคยมีการร้องเรียน