"กรมราชทัณฑ์" สำรวจนักโทษคดีประดิษฐ์อาวุธ เตรียมส่งฝึกอบรมช่วยกลาโหม

วันนี้ (8 พ.ย.) ที่เรือนจำพิเศษมีนบุรี พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันท์อธิบดีกรมราชทัณฑ์บอกถึงกรณีที่ กระทรวงกลาโหม ประสานมายังกรมราชทัณฑ์ ให้สำรวจจำนวนนักโทษที่ถูกคุมขังในข้อหา ผลิต ดัดแปลงสิ่งเทียมอาวุธปืนให้เป็นอาวุธปืนที่สามารถใช้งานได้ ภายหลังสภากลาโหมมีมติเห็นชอบให้กรมสรรพาวุธทหารบก ฝึกอบรมนักโทษ ในข้อหาดังกล่าวให้ได้รับการอบรมในทางที่ถูกต้อง เพื่อมาช่วยงานอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของกระทรวงกลาโหม ตามแนวคิดของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา

ซึ่งในขณะนี้ กรมราชทัณฑ์ ได้สำรวจนักโทษพบแล้วจำนวน 16 คน และอยู่ในระหว่างขั้นตอนการเข้าให้สัมภาษณ์ เมื่อพร้อมก็จะส่งให้กรมสรรพาวุธไปฝึกอาชีพ เพื่อไปเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานต่อไป

นอกจากนี้ ในวันนี้ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ได้เข้าเยี่ยมชมการดำเนินงานและการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังภายในเรือนจำพิเศษมีนบุรี ซึ่งถือเป็นเรือนจำที่มีกระบวนการในการแยกปฏิบัติต่อผู้ต้องขังแต่ละประเภทอย่างชัดเจน เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดมาตรฐานขั้นต่ำสำหรับการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังขององค์การสหประชาชาติ คือผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี จะมีการฝึกระเบียบวินัย ทำกิจวัตรประจำวัน แต่จะยังไม่ได้ให้ฝึกอาชีพหรือให้ทำอะไร เพราะตามกฎหมายจะถือว่ายังเป็นผู้บริสุทธิ์ ส่วนผู้ต้องขังโทษเด็ดขาดจะมีการฝึกอาชีพอธิบดีกรมราชทัณฑ์ บอกว่า เรือนจำพิเศษมีนบุรี ถือเป็นเรือนจำชั้นนำที่ได้มาตรฐานมีผู้ต้องขังกว่า 6,000 คน และมีเจ้าหน้าที่กว่า 100 คน ซึ่งภายในเรือนจำจะมีกิจกรรมหลายอย่าง ทั้งด้านกีฬา การออกกำลังกาย มวยไทย มวยสากล การฝึกอาชีพงานฝีมือ มีวงดนตรี และมีสุขอนามัย การเข้าถึงสถานพยาบาล ที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ภาพรวมจากการเยี่ยมชมวันนี้ถือว่าสอบผ่านทั้งนี้ สิ่งที่ยังคงเป็นห่วงในภาพรวมของเรือนจำและการดูแลนักโทษต่างๆทั่วประเทศนั้น ยังมีความเป็นห่วงเรื่องของการสร้างการยอมรับจากสังคม ให้กับนักโทษ เพราะเมื่อนักโทษเหล่านี้ได้รับการฝึกอาชีพออกไป แต่ก็อาจจะไม่ได้รับโอกาสในการทำงาน ไม่ได้รับการยอมรับ ซึ่งเมื่อไม่มีโอกาส ก็อาจเป็นสาเหตุให้กลับมาทำผิดซ้ำอีก ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่กระทรวงยุติธรรมจะต้องดำเนินการแก้ไข