สลด! กราดยิงคนในโบสถ์ที่รัฐเท็กซัส เสียชีวิต 27 ราย
เกิดเหตุกราดยิงที่โบสถ์แบ๊บติส ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ โดยอดีตทหารหน่วยซ่อมบำรุง ที่ถูกไล่ออกจากกองทัพอากาศ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 27 คน รวมทั้งเด็กวัยเพียง 2 ขวบ ส่วนคนร้ายเสียชีวิตขณะหลบหนี แต่ไม่แน่ชัดว่าฆ่าตัวตายเองหรือถูกวิสามัญ
ทางการรัฐเท็กซัสของสหรัฐฯ เผยแพร่ภาพนายเดวิน แพททริค เคลลี่ วัย 26 ปี มือปืนที่สวมเครื่องแบบทหาร ก่อเหตุกราดยิงในโบสถ์ "เฟิร์สต์ แบ๊พติส" ที่ซูเธอร์แลนด์ สปริงส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 27 คน ที่รวมทั้งลูกสาววัย 14 ปี ของบาทหลวง กับเด็กวัย 2 ขวบ บาดเจ็บอีก 24 คน ทั้งยังระบุด้วยว่า เขาเป็นชาวเมืองนิวบรันเฟลส์ เคยเป็นครูสอน พระคัมภีร์ไบเบิล และถูกปลดจากกองทัพอากาศฐานประพฤติเสื่อมเสีย
ตำรวจเปิดเผยว่า เคลลี่ซึ่งสวมเครื่องแบบทหารและอุปกรณ์ครบ ได้เดินเข้าไปในโบสถ์ ก่อนใช้ปืนกึ่งอัตโนมัติระดมยิงเข้าใส่ฝูงชนราว 50 คน ที่กำลังประกอบพิธีทางศาสนา เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. และหยุดเฉพาะช่วงบรรจุกระสุนใหม่เท่านั้น ก่อนจะหนีเข้าไปในเขตเทศมนฑลกัวดาลู้บ และเสียชีวิต แต่ยังไม่แน่ชัดว่า เขาฆ่าตัวตายหรือถูกวิสามัญ ตำรวจไม่พบความเกี่ยวข้องกับองค์กรก่อการร้ายใดๆ หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ที่รวมทั้งเจ้าหน้าที่สืบสวนจากสำนักงานควบคุมแอลกอฮอล์ ยาสูบและอาวุธปืน หรือ ATF และสำนักงานสืบสวนสอบสวนกลาง หรือ FBI และหน่วยเก็บกู้ระเบิดได้บุกเข้าไปที่บ้านพักของเขา
ตำรวจและหน่วยเก็บกู้ระเบิด ได้บุกบ้านพักของเขา และพบว่า เขาเพิ่งจะโพสต์ภาพอาวุธปืน AR-15 ลงในหน้าเฟซบุ๊คของเขา
เคลลี่เข้าเป็นทหารในกองทัพอากาศ หลังจบการศึกษาจากนิวบรันเฟลส์ ไฮสกูล เมื่อปี2552 โดยทำหน้าที่ในหน่วยส่งกำลังบำรุง แต่ถูกปลดฐานประพฤติเสื่อมเสีย เมื่อปี2556 จึงไปเป็นครูอาสาสอนพระคัมภีร์ไบเบิลที่โบสถ์นิกายแบ๊พติส "คิงสวิลล์ เฟิร์ส"
ผู้เห็นเหตุการณ์คนหนึ่ง บอกว่า ได้ยินเสียงปืนดังรัวราว 50 นัด และนับเป็นเหตุการณ์กราดยิงภายในสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาที่นองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ เจ้าหน้าที่ได้ส่งเฮลิคอปเตอร์อย่างน้อย 6 ลำ เพื่อนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลหลายครอบครัวไปรวมตัวกันที่โบสถ์ เพื่อรอฟังข่าวบุคคลอันเป็นที่รัก เหยื่อกระสุนมีอายุตั้งแต่ 2 ขวบ ถึง 72 ปี
ซูเธอร์แลนด์ สปริงส์ เป็นชุมชนขนาดเล็กอยู่นอกเมืองซาน อันโตนิโอ และมีประชากรไม่ถึง 1,000 คน ซึ่งผู้คนพากันตกตะลึงและไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญแบบนี้ขึ้นได้ ด้านนายเกร็ก แอ็บบอตต์ ผู้ว่าการรัฐเท็กซัสได้ทวี้ตข้อความเสียใจไปยังครอบครัวของเหยื่อ และขอบคุณการตอบสนองสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บอกว่า เขาติดตามสถานการณ์จากญี่ปุ่น ในระหว่างการเริ่มต้นเยือนเอเชีย
เหตุการณ์กราดยิงครั้งนี้ ถือว่านองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ มากกว่า เหตุสังหารหมู่ที่มหาวิทยาลัยเท็กซัส ในเมืองออสติน เมื่อปี 2509 ที่ครั้งนั้น มีผู้เสียชีวิต 15 คน บาดเจ็บ 31 คน.