ผ่านไป 4 วันสำหรับโครงการ "ก้าวคนละก้าว" ของ "ตูน บอดี้สแลม" เพื่อรับเงินบริจาคช่วยเหลือ 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศ โดย "ตูน" ออกสตาร์ทที่ อ.เบตง จ.ยะลา ใต้สุดของแดนสยาม มีเป้าหมายอยู่ที่เหนือสุดแดนสยามคือ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
วันนี้ "ตูน" เข้าสู่พื้นที่ จ.ปัตตานี แล้ว แต่ก็แน่นอนว่า ทั้ง จ.ยะลา และ ปัตตานี คือ พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ถูกมองว่าเป็นพื้นที่ที่อันตราย ซึ่งตลอดการวิ่งของ "ตูน" ก็จะมีเจ้าหน้าที่มาดูแลเรื่องความปลอดภัยด้วย
ดังนั้นตลอดเส้นทางการวิ่งของตูน นอกจากจะเห็นถึงกำลังใจที่ล้นหลามตลอดเส้นทางแล้ว อีกมุมหนึ่งก็คือบรรยากาศความอบอุ่น ความน่ารัก ของผู้คนในพื้นที่กับเจ้าหน้าที่ทหารที่มาช่วยดูแลความปลอดภัย
"ภาคภูมิ ประทุมเจริญ" หรือ โตโต้ อดีตคนเดินเรื่องรายการ "คนค้นคน" ได้บันทึกภาพความประทับใจเหล่านั้นลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวของเขา ตลอดช่วง 4 วันที่ผ่านมา
อย่างเช่นภาพวันนี้ ซึ่ง "โตโต้" ได้บรรยายไว้ว่า
"ผมถ่ายภาพนี้ไว้หลังจากที่ขบวนผ่านไป...เด็กๆสองคนนี้อยากถ่ายรูปกับรถคันใหญ่ๆของทหารที่มาดูแลรักษาความปลอดภัยคุณพ่อกับคุณแม่อุ้มน้องๆไปขอทหารที่อยู่ประจำรถขออนุญาติถ่าย...ไว้เขายิ้มให้กันและกัน (ผมถ่ายภาพมาไม่ทัน)แต่มองจากไกลๆ รู้สึกได้ถึงความเอื้ออารี พร้อมกับภาษากายที่เชื้อเชิญให้ถ่ายได้อย่างสบายใจ
เบื้องหน้าผมตอนนี้คุณพ่ออุ้มเด็กๆไปที่หน้ารถ แล้วกางร่มคุณลูกสองคนเตรียมตั้งท่าส่วน คุณแม่เตรียมกดชัตเตอร์3 2 1.....
กลายเป็นความทรงจำวันหนึ่งหนูโตไป แม่คงบอกว่าถ่ายไว้วันที่พี่ตูนวิ่งผ่านมา...ที่หมู่บ้านของเรา
รถทหารกำลังจะเคลื่อนเพื่อดูแลขบวนต่อไปอีกหนึ่งครอบครัวขออุ้มเด็กๆ มาถ่ายคู่กับทหาร...และบอกว่า จะขอเก็บภาพนี้ไว้เป็นความทรงจำ
ผมเลยแอบคิดเล่นๆว่าเส้นทางที่พี่ตูนวิ่งผ่าน กำลังลดเส้นบางๆที่เคยกั้นระหว่างกันและกัน ให้จางลง"
"โตโต้" บอกไว้ด้วยว่า ส่วนตัวที่เคยอยู่ในพื้นที่เมื่อเขากลับมาอ่านโพสต์นี้ของเขาเอง ก็ถึงกับทำให้น้ำตาซึม...
และนี่ก็เป็นอีกโพสต์ของ "โตโต้" ที่บันทึกบรรยากาศที่น่าประทับใจไว้ ซึ่งเขาบอกว่า ทหารบอกกับเขาว่า "พวกเรามีพี่ตูนเป็นไอดอลครับ...งานนี้ภูมิใจที่ได้มาปฎิบัติหน้าที่และขอยกป้ายเชียร์อยู่ไกลๆ ใขขณะปฎิบัติงานนะครับ"
อีกเรื่องราวความประทับใจที่ "โตโต้" บันทึกไว้และถูกแชร์ต่อไปจำนวนมาก คือ เรื่องราวของ อารีเป็น กามาอูเซ็ง หรือที่คนในชุมชนเรียกว่า "แบเอง"อายุ 25 ปี ที่เตรียมพวงมาลัยธนบัตรมารอมอบให้กำลังใจ "ตูน"
"แบเอง" พิการมาตั้งแต่กำเนิด จากความผิดปกติตั้งแต่วัยเด็ก ทำให้กล้ามเนื้อด้านล่างตั้งแต่เอวจนถึงถึงปลายเท้าไม่สามารถควบคุมได้เลย ไปไหนมาไหนต้องใช้รถวีลแชร์ แต่ก็ยังโชคดีที่พอจะขยับร่างกายส่วนบน และมือทั้งสองได้อยู่บ้าง แม้จะไม่เทียมเท่าคนปกติ. แต่ก็พอจะช่วยเหลือตัวเองได้
เมื่อวันที่ 3 พ.ย. "แบเอง" มารอพี่ตูนด้วยใจที่ตื่นเต้น ขนาดที่ว่าอาจจะเป็นที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้. เพราะด้วยสภาพร่างกายแบบนี้ คงไม่มีโอกาสที่จะไปไหนมาไหนได้ไกล กว่าพื้นที่ของตัวเอง แบเองยังเล่าว่าเคยมีความฝันเล็กว่าอยากไปดูคอนเสิร์ตพี่ตูน เล่นเพลงแสงสุดท้าย เพื่อจะได้อยู่ร่วมเหมือนคนอื่นๆ ที่เคยเห็นคนมากมายดูผ่าน YouTube. แต่เมื่อย้อนดูตัวเอง ก็สารภาพว่าไกลเกิน
หลังเสร็จจากการละหมาดในเวลาตีห้า "แบเอง" ก็ขอให้คุณแม่ช่วยเข็นวีลแชร์ออกมารอพี่ตูนอยู่ที่ถนนฝั่งตรงข้ามพร้อมกับกำเงินที่ตัวเองเก็บไว้ มารวบรวมกับเพื่อนบ้านเพื่อเตรียมส่งมอบให้กับพี่ตูน...แล้วทั้งคู่ก็ได้เจอกัน....สมความปรารถนาและความตั้งใจ
นอกจากภาพถ่ายที่แบเองภาคภูมิใจ เปิดดู แล้วยิ้มน้อย ยิ้มใหญ่คงเห็นจะเป็นคำพูดสั้นๆที่พี่ตูนพูดออกมาจากใจให้หนุ่มพิการคนนี้... "สู้ๆ นะครับ...สู้ๆ นะครับ...ผมไปก่อนครับ. สู้ๆนะครับ"
"สิบนาทีผ่านไป พี่ตูนวิ่งผ่านเกือบกิโล แบเองยังคงก้มหน้าก้มตาดูภาพถ่ายที่แทนความทรงจำ แม่ของแบเองกำลังจะเข็นแบเองกลับบ้าน.. จู่ๆ แบเองก็หันมายิ้มกับผม แล้วพูดขึ้นมาว่า "เจอพี่ตูนวันนี้. ผมจะไม่ท้อแท้กับชีวิตแล้วครับ"" โตโต้บันทึกไว้
อีกความประทับใจ ที่ "โตโต้" บันทึกไว้ คือ เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ผู้ป่วยจากโรคมาลาเลียคนหนึ่งขออนุญาตคุณหมอออกมารอเพื่อขอบคุณในสิ่งที่พี่ตูนได้ลงมือทำ
ตอนแรกเขาเกือบจะพลาดโอกาส เพราะพี่ตูนวิ่งผ่านไปแล้ว แต่ปรากฏว่าพี่ตูนก็วิ่งย้อนกลับมาหาเขา
"เสียดายครับ ผมซ้อมวิ่งมาหลายวัน ดันมาป่วยเป็นโรคมาลาเรีย เลยอดวิ่งกับพี่เลย " คนป่วยบอกกับพี่ตูน
"ไม่เป็นไร เราเป็นกำลังใจให้กันและกัน...ขอให้หายไวไว แล้วออกมาร่วมกันนะครับ ผมจะรอ" พี่ตูนพูดเสร็จพร้อมกับยื่นแขนไปข้างหน้าเพื่อขอจับมือมิตรสหายริมทางท่านนี้ ก่อนจากกันทั้งคู่กำมือกันแน่น
และในวันแรกของการวิ่ง วันที่ ที่เบตง ยะลา น้องคนนี้มาดักรอ "พราตูน" เพื่อมอบเหรียญรางวัลของเขาให้
"พี่ครับ. ผมมารอเพื่ออยากมอบเหรียญรางวัลของผมให้กับพี่ตูน เพื่อเป็นกำลังใจได้ไหมครับ"
แม้ไม่ได้ยินเสียงที่เด็กถาม แต่เมื่อพี่ตูนวิ่งมาถึง ก็รีบวิ่งตรงปรี่เข้ามาแล้วหยุดชะลอ โน้มตัวก้มหัวลงมา
เพื่อให้น้องคนนี้ ได้คล้องเหรียญที่เตรียมมา เพื่อให้กำลังใจกันและกัน...
ก่อนวิ่งต่อไป พี่ตูนขอเด็กๆถ่ายภาพ พร้อมกับบอกเด็ก ว่าเป็นเด็กดี และตั้งใจเรียนนะ...แล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไปในก้าวต่อไปของตัวเอง
ขอบคุณเรื่องราวดีๆจาก "ภาคภูมิ ประทุมเจริญ"(อ่านเพิ่มเติมจากเฟซบุ๊กภาคภูมิ คลิกที่นี่)
--------
ที่มา : คมชัดลึกออนไลน์