วันที่ 4 พฤศจิกายน 2560 เวลา 11.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ณ สนาม เอ็มเอฟเอฟ สเตเดียม การแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี กลุ่ม ไอ นัดแรก เป็นการพบกัน ระหว่างสองทีมในอาเซียนอย่างทีมชาติไทย กับ ทีมชาติสิงคโปร์ โดยสภาพอากาศวันนี้อยู่ที่ประมาณ 3-5 องศาเซลเซียส
โดยในปีนี้ทั้งสองทีมเคยพบกันมาแล้วทั้งหมดสองครั้ง โดยในชิงแชมป์อาเซียนU19ที่เมียนมา ไทยชนะมา 2-0 โดยได้ประตูจาก ยุทธพิชัย เลิศล้ำ และ โชคอนันต์ สายมาอินทร์ และช่วงต้นปี ในการแข่งขันฟุตบอล Jockey Club ที่ประเทศฮ่องกง เป็นสิงคโปร์ที่ชนะไป 3-1
เกมนี้ มาร์ค อลาเบดร้า ปาลาซิโอส จัดทัพชุดใหญ่ นำโดย สิทธิโชค ภาโส กองหน้าของคาโงชิมา ยูไนเต็ด ในญี่ปุ่น ส่วนแดนกลางมีเอกนิษฐ์ ปัญญา, โชคอนันต์ สายมาอินทร์ และ นรากร นุ่มจันทร์สกุล
เริ่มเกมมาแค่ 40 วินาที ไทยก็มาได้ประตูออกนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่เอกนิษฐ์ ปัญญา จ่ายบอลให้ สิทธิโชค ภาโส แต่งสองจังหวะแล้วกดด้วยขวาเสียบเสาสองเข้าไปให้ ช้างศึก U19 นำ 1-0 นาที 20 ช้างศึก U19 น่ามาได้ประตูที่สองจากจังหวะลุยขึ้นมาของ กฤษฎา นนทรัตน์ ก่อนเปิดไปเสาแรกให้ สิทธิโชค ภาโส ได้ยิงที่เสาแรก แต่ติดเซฟนายทวารของสิงคโปร์ และนาที 37 จากจังหวะบอลยาวของกฤษดา กาแมน และเป็น สิทธิโชค ภาโส ที่โฉบตัดหน้าแนวรับสิงคโปร์ และกดด้วยขวาเสียบเสาสองเข้าไปให้ ช้างศึก U19 นำห่าง เป็น 2-0 ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่มเติมจบครึ่งแรก เป็นทีมชาติไทย U19 ที่นำสิงคโปร์อยู่ 2-0
ต่อมาในครึ่งหลัง นาที 52 ไทยน่ามาได้ประตูที่สาม จากจังหวะที่บอลถึงสุดเส้นแล้วกลับมาเป็น นราวิชญ์ เก้าสันเทียะ ที่กดด้วยขวาเข้าข้างตาข่าย นาที 55 สิงคโปร์ มาได้จุดโทษครั้งที่สองจากจังหวะทำแฮนด์บอลในเขตโทษของผู้เล่นไทย และดาเนียล ซอฟิก ยิงครั้งแรกไปติดเซฟของกัณตพัชห์ มันปาติ และ ผู้ตัดสินให้ยิงใหม่เข้าไปให้ สิงคโปร์ไล่มาเป็น 1-2 พอโดนตีไข่แตก ไทยก็เปลี่ยนตัวคนแรก โดยส่ง นาคิน วิเศษชาติ ลงมาเล่นแทน นราวิชญ์ เก้าสันเทียะ
ช่วงทดเจ็บ ไทยมาได้ประตูปิดกล่องจากจังหวะยิงไกลแสกหน้าของสิทธิโชค ภาโส และเป็นแฮตทริกของเจ้าตัวในเกมนี้ให้ ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี เฉือนชนะสิงคโปร์ไป 3-1
สำหรับเกมต่อไป ทีมชาติไทย U19 จะทำการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี กลุ่ม ไอ นัดที่สอง พบกับ ทีมชาติมองโกเลียU19 เจ้าภาพ ที่สนาม เอ็มเอฟเอฟ สเตเดียม ในวันที่ 6 พฤศจิกายน 2560 เวลา 15.00 น. ตามเวลาประเทศไทย