ตนได้ตั้งพนักงานสืบสวน สอบสวน ขึ้นต่างหากอีก 1 ชุด เพื่อตรวจสอบคำร้องทั้งหมดว่า เป็นประเด็นเดิมที่เคยมีการร้องทุกข์ไว้แล้วหรือไม่ และมีประเด็นใหม่ที่ยังไม่เคยร้องทุกข์หรือไม่ ทั้งนี้เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด รวมถึงรายละเอียดในการอนุมัติเงินกู้ให้กับบริษัทกฤษดามหานคร ว่าพนักงานสอบสวนชุดเดิมทำสำนวนไว้ครบถ้วนหรือไม่ โดยการร้องทุกข์กล่าวโทษเพิ่มเติมจะไม่ส่งผลให้คดีในส่วนอื่นต้องหยุดชะงักหรือล่าช้าไป
"ทุกคดีที่รับไว้เป็นคดีพิเศษดีเอสไอสอบสวนและดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน ทุกอย่างว่ากันตามข้อเท็จจริง เมื่อพบมูลความผิดก็ต้องดำเนินคดี ยืนยันว่าไม่กลั่นแกล้งใคร ถ้าคดีไม่มีหลักฐานก็ต้องสั่งไม่ฟ้อง ทั้งนี้ไม่ว่าจะสั่งคดีไปในทิศทางใดฟ้องหรือไม่ฟ้อง ต้องมีเหตุผลและคำตอบอธิบายกับสังคมได้"อธิบดีดีเอสไอกล่าว ส่วนกรณีที่มีการนำสลิปการโอนเงินซึ่งเป็นหลักฐานในสำนวนคดีไปเผยแพร่นั้น
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวนว่าข้อมูลดังกล่าวถูกนำออกไปจากสำนวนการสอบสวนได้อย่างไร มีพนักงานสอบสวนหรือเจ้าหน้าที่คดีพิเศษเข้าไปเกี่ยวข้องกับการนำหลักฐานประกอบสำนวนออกไปให้บุคคลภายนอกหรือไม่ แต่ประเด็นดังกล่าวไม่ใช่เรื่องใหม่ มีการตรวจสอบพบรายชื่อบุคคลที่รับเงินจากบริษัทกฤษดามหานครตั้งแต่คตส.เริ่มสอบสวน จึงอาจเป็นไปได้ว่าหลักฐานที่หลุดออกไปเป็นเรื่องเก่าที่ถูกหยิบขึ้นมาเป็นประเด็นในช่วงใกล้การเรียกผู้ต้องหาเข้ารับทราบกล่าวข้อหา ซึ่งถือเป็นเทคนิคทั่วไปที่นำมาใช้ต่อสู้คดี