svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

แพทย์ย้ำ! วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกไม่เห็นผลในทันที แต่ปลอดภัย 100%

29 กันยายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญชี้วัคซีน HPV ป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูกมีความปลอดภัยแน่นอนเพราะมีการศึกษาวิจัยมากว่า 20 ปี และใช้ในต่างประเทศมาแล้วกว่า 10 ปี มั่นใจว่าคุ้มค่ากับการคุ้มครองชีวิตเด็กไทย พร้อมย้ำสร้างความเข้าใจกับประชาชนว่าการฉีดวัคซีนต้องอาศัยระยะเวลา ไม่ได้เห็นผลในทันทีเหมือนการใช้ยา

แพทย์ย้ำ! วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกไม่เห็นผลในทันที แต่ปลอดภัย 100%

               เทศบาลตำบลสันทรายหลวง และ มูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน ได้จัดการบรรยายวิชาการความร่วมมือภาคีสุขภาพด้านการป้องกันโรค "สร้างภูมิเสริมรักษ์" ณ เทศบาลตำบลสันทรายหลวง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ แก่ พยาบาล คณะครู นักเรียน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม ) และ ประชาชนผู้สนใจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับโรคติดต่อที่พบบ่อยในชุมชน อาทิ โรควัณโรค โรคไข้เลือดออก โรคมือเท้าปาก โรคไข้หวัดใหญ่ โรคอุจจาระร่วงจากไวรัสโรต้า รวมถึงโรคที่เป็นปัญหาสุขภาพ คือโรคมะเร็งปากมดลูกซึ่งเป็นโรคร้ายแรงและเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับสองในหญิงไทย กิจกรรมในครั้งนี้มีการให้ความรู้ในเรื่องการป้องกันโรคด้วยการใช้วัคซีนในแผนการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันแห่งชาติ ซึ่งรวมถึงวัคซีนใหม่ที่กระทรวงสาธารณสุขได้เริ่มฉีดให้แก่เด็กนักเรียนหญิงชั้นป.5 ทุกคนทั่วประเทศในปีนี้คือ วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก โดยมี นายนที ดำรงค์ นายกเทศมนตรีตำบลสันทรายหลวง และนพ. มานิต ธีระตันติกานนท์ ประธานกรรมการมูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน  เป็นประธานในพิธีเปิด และ การบรรยายวิชาการ เรื่อง "โรคติดต่อที่พบบ่อยในชุมชน การป้องกันและการสร้างเสริมภูมิคุ้มกัน" โดย รศ. (พิเศษ) นพ. ทวี โชติพิทยสุนนท์ นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย

                    นายนที ดำรงค์ นายกเทศมนตรีตำบลสันทรายหลวง กล่าวว่า "โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี เป็นความร่วมมือระหว่างภาคประชาสังคมและองค์กรส่วนท้องถิ่น ซึ่งเป็นโอกาสดีที่จะให้ประชาชนได้รับความรู้เกี่ยวกับการป้องกันโรคในชุมชนและในเด็กนักเรียน โดยกิจกรรมมีทั้งการให้ความรู้ในเรื่องของ โรคที่สามารถป้องกันได้ด้วยวัคซีน และการเตรียมการสำหรับการฉีดวัคซีนใหม่ คือวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ให้กับเด็กนักเรียนหญิงในช่วงชั้นของ ป.5  วัคซีนถือว่าเป็นเรื่องของการกันไว้ดีกว่าแก้ เป็นสิ่งที่ป้องกันไม่ให้เด็กที่จะเติบโตขึ้นไปจะต้องมีความเสี่ยงในโรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งจะมีผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของครอบครัว วัยหนุ่มสาว ไปจนถึงวัยทำงาน" 

                   นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ ประธานกรรมการมูลนิธิวัคซีนเพื่อประชาชน เปิดเผยว่า วัคซีนเป็นเรื่องที่มีความสำคัญ หากโรคติดต่อโรคไหนไม่มีวัคซีนป้องกันก็จะเป็นปัญหาตลอด แต่หากโรคไหนมีวัคซีนป้องกันก็จะมีคนป่วยน้อยลง ทางมูลนิธิ ได้ทำงานร่วมกับหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องในการสนับสนุนให้ประชาชนเห็นคุณค่าของวัคซีน

                   "มูลนิธิก่อตั้งมา 6 ปี เรามองว่าประชาชนยังมีความเข้าใจในเรื่องของวัคซีนน้อย วัคซีนเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการป้องกันโรค ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลได้มีการให้ความรู้ถึงความสำคัญของวัคซีน และรณรงค์ให้ประชาชนไปรับวัคซีน แต่เมื่อเวลาผ่านไปโรคที่คิดว่าหมดไปแล้วก็กลับมาใหม่ ดังนั้นจุดประสงค์ของเราจะช่วยเผยแพร่ความรู้ ความสำคัญของวัคซีน ให้กับประชาชนทางช่องทางต่าง ๆ และอีกด้านหนึ่งเรามุ่งมั่นให้ประชาชนมีวัคซีนป้องกันโรคที่สมควรจะใช้ บางครั้งประชาชน อาจยังไม่เข้าใจถึงการฉีดวัคซีนเพราะไม่ได้เห็นผลในทันที อย่างวัคซีน HPV ที่ฉีดให้กับเด็กอายุ 11-12 ปี ผลที่เห็นจะเกิดประโยชน์ในอีก 20-30 ปีข้างหน้า ต้องเข้าใจก่อนว่าวัคซีนต้องอาศัยระยะเวลา ไม่เหมือนการให้ยารักษา ที่เห็นผลได้ทันที" นพ.มานิต กล่าว

                 ด้าน รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ นายกสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กแห่งประเทศไทย กล่าวว่า "สำหรับสถานการณ์การให้วัคซีนในเด็กไทยตอนนี้ มีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ สามารถป้องกันโรคหลาย ๆ โรคได้จนเกือบไม่พบโรคเหล่านั้นแล้ว เช่น คอตีบ บาดทะยัก ไอกรน ซึ่งใช้มา 40-50 ปี แต่ช่วงหลังมีการเปิดประเทศมากขึ้น มีคนต่างชาติเข้ามามากขึ้น ก็นำโรคเหล่านี้เข้ามาด้วยทำให้เราต้องมีการฉีดวัคซีนป้องกันให้กับประชาชนเพิ่มขึ้น และบางโรคสามารถควบคุมได้ในระดับหนึ่ง อย่างเช่น หัดเยอรมัน คางทูม ก็ดีขึ้นมาก แต่อย่างไรก็ตามด้วยความก้าวหน้าของวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว วัคซีนใหม่ ๆ ก็มีเพิ่มมากขึ้น

                เพราะฉะนั้นก็เป็นสิ่งที่ทางการแพทย์กับผู้รับผิดชอบ เช่น กระทรวงสาธารณสุข จะต้องมีการผลักดันให้มีการได้รับวัคซีนตัวใหม่ ๆ ขึ้น ซึ่งในปีนี้ก็มีวัคซีนตัวใหม่ให้เด็กไทย ได้แก่ วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก ซึ่งเราก็รู้ว่าโรคมะเร็งนี้มีอันตรายร้ายแรง วัคซีนตัวนี้ในต่างประเทศใช้มากว่า 10 ปี และมีการศึกษาวิจัยกว่า 20 ปี ซึ่งเราจะเห็นว่าวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนในประเทศไทย จะเป็นวัคซีนที่มีความปลอดภัยแน่นอน วัคซีนเวลาฉีดก็จะมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น ปวด บวม เล็กน้อย เมื่อเร็ว ๆ นี้เราได้ยินข่าวฉีดแล้วมีคนเป็นลม ซึ่งเรื่องนี้เราพบสาเหตุแล้วเกิดจากความกลัวเข็ม และเป็นอุปทานหมู่ สิ่งเหล่านี้เราต้องเตรียมตัวไว้ก่อน และต้องเตรียมผู้รู้ผู้เชี่ยวชาญในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น"

               "การฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในเด็กเป็นความคุ้มค่ามาก เพราะว่าโรคบางอย่างเป็นแล้วจะรักษาได้ แต่ถ้ารักษาไม่ทันก็อาจจะถึงชีวิต หรือบางโรคอาจจะทำให้พิการตลอดชีวิต ซึ่งจะทำให้เกิดภาระของพ่อแม่ที่ต้องมาดูแลลูกที่ต้องพิการ และภาครัฐก็จะต้องให้การช่วยเหลือ เพราะฉะนั้นจะเห็นได้ว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุ้มค่ามาก เพราะวัคซีนไม่ได้ป้องกันชีวิตอย่างเดียว มันสามารถป้องกันได้ถึงความพิการ และสุดท้ายสามารถป้องกันถึงความเจ็บป่วยด้วย" รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี กล่าว

                นางสาววิยดา ใจหล้า อายุ 30 ปี อาชีพพนักงานขายสินค้า มารดาเด็กฝาแฝด เด็กหญิงวธิดา-วนิดา ไชยวงค์ เปิดเผยว่าสำหรับโรคมะเร็งปากมดลูก เรารู้ว่าเป็นโรคที่อันตรายมาก เนื่องจากมีญาติที่เสียชีวิตจากโรคนี้หลายคน พอได้รับข้อมูลข่าวสารจากทางโรงเรียนจะมีการฉีดวัคซีนเอชพีวี เพื่อป้องกันมะเร็งปากมดลูกให้กับเด็กนักเรียนภายในโรงเรียนซึ่งรวมถึงลูกสาวฝาแฝดด้วย ก็รู้สึกดีใจ เพราะเป็นการป้องกันและช่วยลดค่าใช้จ่าย ถ้าเราไปฉีดเองก็น่าจะแพง อยากให้ลูกได้รับการป้องกัน เพราะเดี๋ยวนี้โรคใหม่ ๆเกิดขึ้นเยอะ ถ้าเราป้องกันได้ก็ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร และก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ขอบคุณหน่วยงานภาครัฐที่เห็นความสำคัญกับการฉีดวัคซีนในครั้งนี้ให้กับเด็ก ๆ ในอนาคตโรคนี้คงลดน้อยลง และไม่เกิดขึ้นกับคนในครอบครัวเรา

logoline