กระทิงแดงเร่งสูบน้ำออกจากป่าห้วยเม็ก

22 ก.ย. 60 เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ ป่าสาธารณะห้วยเม็ก บ้านหนองแต้ ต.บ้านดง อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น นายชูชาติ ผิวสว่าง รองประธานสภาองค์กรชุมชนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ในช่วงเวลา 10.00 น. ได้มีตัวแทนบริษัทกระทิงแดงนำรถแบ็คโฮยกเครื่องสูบน้ำจำนวน 1 เครื่อง ขนาดท่อ 20 นิ้ว ลงจากรถบรรทุกสิบล้อ นำมาสูบน้ำออกจากห้วยเม็ก เนื่องจากได้มีการทำคันดินกั้นน้ำไว้ในช่วงที่ทางบริษัทมาเช่าป่าห้วยเม็ก และทางภาคราชการยกเลิกสัญญาเช่า โดยได้สูบน้ำลงไปยังบ่อเก็บน้ำที่อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของป่าห้วยเม็กระยะทาง 200 เมตร ส่งไปตามท่อ เพื่อนำไปเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงหน้าแล้ง

ทางด้านนายทรงวุฒิ กิจวรวุฒิ ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหนองหวาย บอกว่า จนถึงขณะนี้ทางชลประทานยังไม่มีเรื่องขอใช้น้ำอย่างเป็นทางการจากบริษัทหรือโรงงานกระทิงแดง อาจจะเป็นเพราะว่าอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ทำให้ไม่สามารถประเมินได้ว่ามีมากน้อยแค่ไหน แต่ก็เกิดข้อกังวลที่จะกระทบต่อการใช้น้ำท้ายเขื่อน ฤดูฝนอาจจะไม่มีปัญหา แต่ถ้าเข้าสู่ฤดูแล้งอาจจะต้องมีข้อกำหนดการใช้น้ำ และถือว่าเป็นปัญหาในอนาคตของการจัดการน้ำเขื่อนหนองหวาย ที่จะต้องบริหารจัดการน้ำให้กับประชาชน ตั้งแต่ท้ายเขื่อนอุบลรัตน์ลงมา เพื่อทั้งการเกษตร การใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งมีตามริมลำน้ำพองหลายโรงงาน การใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคจนถึงในเขตเมืองขอนแก่น

"โรงงานเดินเครื่องเมื่อไหร่ ถ้าหากฝายหนองหวายไม่พัฒนาอะไร ไม่เตรียมรับมือ อาจจะเกิดปัญหาการแย่งน้ำ เรียกได้ว่าสงครามแย่งน้ำเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะที่ผ่านมาปัญหาการจัดการน้ำบางปีต้องใช้น้ำก้นอ่าง เพราะที่กักเก็บน้ำที่เขื่อนหนองหวายไม่เพียงพอ โดยเฉพาะถึงหน้าแล้ง ตอนนี้มีแผนที่จะยกระดับน้ำเขื่อนหนองหวายในพื้นที่ของชลประทาน เพื่อให้สามารถเก็บน้ำที่เขื่อนอุบลรัตน์โรยน้ำเก็บกักไว้ได้อย่างน้อย 150 ล้านลูกบาศก์เมตร ในช่วงแล้งที่เราสามารถมีน้ำเลี้ยงให้รอดได้ถึงหกเดือน"

นายทรงวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า นอกจากปัญหาแย่งน้ำแล้ว สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ คุณภาพน้ำ การทำโรงงานต้องมีรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ อีไอเอ ต้องเอาหลายภาคส่วนมารวม ไม่ใช่แค่รัศมี 5 กิโลเมตร ที่อยู่ใกล้โรงงานเท่านั้น แต่สำหรับโรงงานที่อยู่เหนือเขื่อนติดแหล่งน้ำสำคัญแบบนี้ ควรจะต้องทำตั้งแต่จุดท้ายเขื่อนยาวต่อเนื่องจนถึงเขตอำเภอเมือง ซึ่งไม่รู้ว่าการผลิตของโรงงานจะมีน้ำทิ้งน้ำเสียมากน้อยแค่ไหน เพราะยังไม่เคยเห็นรายงานศึกษาผลกระทบและแผนการผลิตว่าใช้น้ำมากน้อยแค่ไหน ซึ่งอัตราส่วนน้ำเสียจากขบวนการผลิตจะอยู่ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ของน้ำที่ใช้ทั้งหมด ซึ่งน้ำเสียส่วนนี้อาจจะบำบัดได้ แต่สุดท้ายก็ต้องมีส่วนที่ต้องทำลายมีการเคลื่อนย้ายไปยังแหล่งกำจัดแบบไหนหรือที่ไหนด้วย

ส่วนความคืบหน้าเกี่ยวกับการสอบสวนในเรื่องของการทำประชาคมหมู่บ้านที่นำรายชื่อของชาวบ้านที่ไม่ได้เข้าร่วมประชาคมมาประกอบเพื่อส่งรายงานว่าไม่มีคนคัดค้านในการให้เช่าที่ห้วยเม็ก นายณัฐภัทร พลอยสุภา นายอำเภออุบลรัตน์ ระบุว่า ในเรื่องดังกล่าวนั้นทางส่วนกลาง คือ กระทรวงมหาดไทย จะเป็นผู้ส่งเจ้าหน้าที่เข้ามาสอบสวนเอง โดยไม่แจ้งให้ทางอำเภอทราบ แต่เบื้องต้นยังไม่มีเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางลงมายังพื้นที่ ทำให้การสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทย