ซึ่งแบ่งนิทรรศการเป็น 5 โซนดังนี้ โซนที่ 1 เมื่อเสด็จอวตาร โซนที่2 รัชกาลที่ร่มเย็น โซนที่ 3 เพ็ญพระราชธรรม โซนที่ 4 นำพระราชไมตรี และโซนที่ 5 พระจักรีนิวัตฟ้าตรี โดยแบ่งผู้เข้าชม เป็น 4 กลุ่มคือ ผู้พิการ ประชาชนทั่วไป นักท่องเที่ยว และพระสงฆ์ ซึ่งกำหนดเวลาเข้าชม ตั้งแต่ 7.00 น.- 21.00 น.ทุกวัน ตั้งแต่วันที่ 1-30 พ.ย.2560 นอกจากนั้น จะมีการบริการจัดรถรับส่ง 4 มุมเมือง และอาสาสมัครคอยให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนทุกกลุ่ม
ทั้งนี้ จากการเดินธรรมดารอบพระเมรุมาศ ใช้เวลาประมาณ 14 นาที ซึ่งในส่วนของการเข้าชมยังไม่ได้กำหนดว่าจะเปิดให้ชมอย่างอิสระ หรือให้เข้าชมอย่างจำกัดเวลา โดยแต่ละแนวทางก็มีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน และต้องพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อให้ทุกคนต้องได้เข้าชมอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ที่ประชุม เห็นชอบให้ปรับการจัดแสดงมหรสพในทุกช่วงเวลา รวมถึงต้องมีการจัดแสดงโขน และวงดนตรีปี่พาทย์ อย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของบริเวณมณฑลพิธี และด้านนอกรอบบริเวณมณฑลพิธี ขณะเดียวกันยังมีการจัดสร้างพระมารุมาศจำลอง ทั้งในส่วนกรุงเทพมหานคร และอีก 76 จังหวัดทั่วประเทศ โดยในส่วนของกรุงเทพฯ จะจัดสร้างทั้งหมด 9 จุด และทุกจุดจะมีการจัดนิทรรศการเกี่ยวกับในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อให้ประชาชนที่ไม่มีโอกาสได้เข้ามาร่วมในพระราชพิธี มีโอกาสถวายความอาลัยอย่างใกล้ชิด
"ในส่วนความคืบหน้าการจัดสร้างพระเมรุมาศและอาคารประกอบ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จมากกว่า 90 % ซึ่งทันภายในวันที่ 30 ก.ย.2560 จะเสร็จสมบูรณ์ 100% โดยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมเสด็จฯไปทรงยกพระนพปฎลมหาเศวตฉัตรยอดพระเมรุมาศ ในวันที่ 18 ต.ค.2560 เวลา 17.00 น. เป็นต้นไป นอกจากนั้น ในส่วนของการบูรณะปฎิสังขรณ์ราชรถราชยาเสร็จแล้ว 100% โดยกรมศิลปากร ได้เชิญพล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานในการทำพิธีบวงสรวงราชรถราชยา" พล.อ.ธนะศักดิ์ กล่าว
นายวีระ กล่าวว่า การจัดนิทรรศการครั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้เข้าชมวันละ 1 แสนคน ซึ่ง ทางวธ.ได้เตรียมจัดทำเอกสารนำชม 3 ล้านฉบับ ขณะที่ผู้พิการตา จะมีอาคารพิเศษ จำลองพระเมรุมาศให้สามารถสัมผัสได้ และจัดทำแผ่นซีดีแผ่นเสียงอธิบายการจัดนิทรรศการในครั้งนี้ ซึ่งผู้พิการทางสายตา สามารถนำกลับไปฟังและเรียนรู้ต่อไปได้ นอกจากนั้น จะมีทางลาดสำหรับผู้ที่ใช้รถเข็น
พล.ต.ธานี ฉุยฉาย ที่ปรึกษากองทัพภาคที่ 1กล่าวว่าในส่วนของกองทัพรับผิดชอบเรื่องความปลอดภัยและการอำนวยสะดวก โดยการดำเนินการจะจำลองรูปแบบการเข้ากราบสักการะพระบรมศพ ของกองอำนวยการร่วมรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง (กรอ.รส.) โดยการผ่านเข้าออกจะมี 3 จุด คือ บริเวณพระแม่ธรณีบีบมวยผม กองบัญชาการรักษาดินแดน(รด.) และท่าช้าง จากจะให้ประชาชนมาในจุดที่พักคอย ตั้งอยู่ภายในท้องสนามหลวงด้านทิศเหนือ โดยการดำเนินการทั้งหมดจะมองถึงความสะดวกของประชาชนเป็นสำคัญ
ส่วนการรักษาพยาบาล มีทั้งจุดที่มีแพทย์ พยาบาล และรถพยาบาล รวมถึงมีพยาบาลเดินเท้า ทั้งด้านนอกและด้านในนิทรรศการ