svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

เตรียมออกหมายเรียกนศ.แพทย์ให้ปากคำ เจ้าของบริษัทขนส่งแจ้งความข้อหา "พยายามฉ้อโกง"

10 กันยายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ตร.เตรียมออกหมายเรียกนศ.แพทย์ เข้าให้ปากคำเพิ่มเติมพรุ่งนี้ ขณะที่เจ้าของบริษัทขนส่งแจ้งความในข้อหา "พยายามฉ้อโกง" แล้ว

จากกรณีนักศึกษาแพทย์ ชั้นปีที่ 6 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ว่าจ้างรถบริษัทขนส่งสัตว์เลี้ยง นำสุนัขพันธุ์ปอมเดินทางมารักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในตัวเมืองนครราชสีมา แต่เกิดตายระหว่างทางจากนั้นเจ้าของสุนัขได้เรียกร้องค่าประกันกับทางบริษัทขนส่ง เมื่อโรงพยาบาลสัตว์ทำการผ่าพิสูจน์ซากสุนัขพบว่ามียาลดความดันของมนุษย์อยู่ในกระเพาะอาหารเป็นจำนวนมาก โดยสงสัยว่าอาจถูกวางยาเพื่อเรียกร้องเงินประกัน
คืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา เวลา 14.00 น. วันที่ 10 กันยายน นางณัฐนันท์ หรือหญิง จีระวิวิธพร อายุ 39 ปี เจ้าของบริษัทขนส่งเอช.เอส.เค.เอ็กซ์เพรส อินเตอร์เนชั่นแนล แอนด์ เซอร์วิส จำกัด กล่าวว่า โดยก่อนเกิดเหตุมีลูกค้าทราบชื่อต่อมาคือนายภัทรพงศ์ ทรงทรัพย์กุล นักศึกษาแพทย์ ชั้นปีที่ 6 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ติดต่อเข้ามาที่ร้านเพื่อใช้บริการนำสุนัขพันธุ์ปอม เพศผู้ สีน้ำตาล อายุ 7 เดือน ไปส่งที่โรงพยาบาลสัตว์หมอต้น เลขที่ 1143/47 ถนนสุรนารายณ์ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยให้ข้อมูลว่า จะนำไปฝากไว้ภายในสถานที่ดังกล่าวเป็นระยะเวลา 2 วัน เพื่อเซอร์ไพรส์แฟนสาวเนื่องจากอยากได้และชื่นชอบสุนัขพันธุ์นี้เป็นอย่างมาก โดยทางบริษัทได้แจ้งค่าบริการขนส่ง 6,500 บาท และลูกค้าขอทำประกันชีวิตเพิ่ม 4,000 บาท เนื่องจากซื้อมาในราคา 4 หมื่นบาท หากเกิดเสียชีวิตในระหว่างการเดินทางบริษัทจะเป็นผู้รับผิดชอบตามจำนวนเงินทั้งหมด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา มีการนัดแนะให้ทางบริษัทไปรับลูกค้าและสุนัขที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยลาดพร้าว 18 แขวงจอมพล เขตจตุจักร กทม. ก่อนเดินทางไปพร้อมกันทั้งหมดภายในรถของบริษัท ซึ่งระหว่างการเดินทางน้องหมามีอาการอ่อนเพลียอยู่ตลอดเวลา ตนจึงนำกลูโคสผสมน้ำดื่มให้รับประทานเป็นระยะๆ เมื่อถึงที่หมายตนจึงเดินทางกลับทันทีเนื่องจากมีลูกค้ารออีกเป็นจำนวนมาก

นางณัฐนันท์ กล่าวต่อว่า เมื่อเวลาผ่านไปประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งขณะที่ตนใกล้ถึงกทม. นายภัทรพงศ์ ได้โทรศัพท์ติดต่อเข้ามาพร้อมทั้งบอกว่าสุนัขตายแล้วด้วยความเป็นกังวลใจ ตนจึงวนรถกลับไปที่โรงพยาบาลสัตว์หมอต้นอีกครั้ง เมื่อไปถึงลูกค้าจะให้ทางบริษัทเป็นผู้ชดใช้จำนวนเงิน 4 หมื่นบาท แต่ตนไม่ยินยอมเนื่องจากข้อตกลงในเงื่อนไขวงเงินประกันหากสุนัขเสียชีวิตระหว่างขนส่งทางบริษัทจะเป็นผู้ชดใช้ให้ทั้งหมด จากนั้นลูกค้าจึงไปบอกกับทางโรงพยาบาลให้ช่วยชดใช้กับทางบริษัทฝ่ายละ 2 หมื่นบาท ซึ่งทางหมอต้นก็ไม่ได้เป็นสาเหตุที่ทำให้สุนัขเสียชีวิตจึงเยียวยาช่วยเหลือเป็นเงินสด 2 พันบาท และนำสุนัขไปเผาที่วัดให้เนื่องจากเป็นคนรักสัตว์มากเช่นกัน ก่อนตนจะเดินทางกลับกทม. ตามปกติ

นางณัฐนันท์ กล่าวอีกว่า เมื่อมาถึงบริษัทได้รับข้อมูลว่า เมื่อวันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา นายภัทรพงศ์ ได้ติดต่อมายังบริษัทฟีนิกซ์ เอ็กซ์เพลส จำกัด ตั้งอยู่ย่านจรัญสนิทวงศ์ 13 ซึ่งเป็นของน้องชายตนเพื่อให้ส่งกระต่าย จำนวน 10 ตัว พร้อมทั้งขอทำประกันหากเกิดการเสียชีวิตระหว่างขนส่งหากตัวใดตายทางบริษัทจะต้องชดใช้ในราคาตัวละ 5,000 บาท ซึ่งครั้งนั้นทางน้องชายได้ปฏิเสธไปทันที ก่อนจะเกิดเรื่องกับตนและมาทราบข่าวการเสียชีวิตของน้องหมาอีกตัวซึ่งแพทย์โรงพยาบาลสัตว์เซ็นเตอร์เพ็ท จ.นครราชสีมา เป็นผู้ผ่าพิสูจน์จนพบความผิดปกติเจอยาลดความดันของมนุษย์ในกระเพาะอาหาร ทั้งนี้เมื่อวานที่ผ่านมาตนพร้อมด้วยตัวแทนของกลุ่มวอตช์ด๊อก ไทยแลนด์ ได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน โดยตนแจ้งความในข้อหาพยายามฉ้อโกง ส่วนทางวอตช์ด๊อก ไทยแลนด์ เป็นตัวแทนของรัฐซึ่งแจ้งในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ เนื่องจากเป็นอาญาแผ่นดินโดยมีรัฐเป็นผู้เสียหายโดยตรง

ต่อมาพ.ต.ท.สืบพงศ์ กรุณา รอง ผกก.(สอบสวน) สน.สุทธิสาร เปิดเผยว่า ภายหลังจากตัวแทนกลุ่มวอตช์ด๊อก ไทยแลนด์ และบริษัทขนส่งเอช.เอส.เค.เอ็กซ์เพรส อินเตอร์เนชั่นแนล แอนด์ เซอร์วิส จำกัด เดินทางเข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับนักศึกษาแพทย์มหาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งมีเจตนาว่าจ้างให้ขนส่งสุนัขเพื่อเอาเงินประกันภัย จากการตรวจสอบหลักฐานที่เป็นเอกสารการปลอมแปลงราคาซื้อสุนัขและหลักฐานการพูดคุยผ่านช่องทางแอพพลิเคชั่นไลน์พบว่าเข้าข่ายการกระทำผิดในข้อหาพยายามฉ้อโกงอย่างชัดเจนซึ่งทางพนักงานสอบสวนสามารถทำการออกหมายจับได้ในทันที ส่วนจะเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์หรือไม่นั้นยังไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้อย่างแน่ชัด เนื่องจากยังขาดหลักฐานสำคัญคือตัวยาที่ใช้ฆ่าสุนัขตัวแรก นอกจากนี้จากข้อมูลของคนขับรถของบริษัทขนส่งสัตว์อีกแห่งที่ปรากฏเรื่องราวในโลกโซเชี่ยลทราบเพียงว่าเห็นเจ้าของป้อนเม็ดยาให้กับสุนัข และพบเม็ดยาติดอยู่ที่ปลอกคอของสุนัข ทั้งนี้ต้องรอให้ผู้ถูกกล่าวหาเข้ามาให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวนถึงจะทราบว่าเป็นการจงใจทารุณกรรมสัตว์หรือไม่ โดยในวันพรุ่งนี้(11 ก.ย.) ทางพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร จะทำการออกหมายเรียกให้นักศึกษาแพทย์รายดังกล่าวมาเข้าพบเพื่อทำการสอบปากคำเพิ่มเติม ซึ่งหากออกหมายเรียกถึง 2 ครั้ง ยังไม่เข้าพบกับทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการออกหมายจับตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

logoline