svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ปชช.ส่วนใหญ่ พอใจกับสิทธิบัตรทอง ปี 60

10 กันยายน 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผลสำรวจ"บัตรทอง ปี60"ประชาชนพึงพอใจง95.66%แนะข้อเสนอส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วม สร้างความเข้มแข็งการบริหารกองทุนสุขภาพตำบล

นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)กล่าวว่า การสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ผู้ให้บริการ และองค์กรภาคีที่เกี่ยวข้องต่อระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ นอกจากเป็นการดำเนินการตามคณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงานทุนหมุนเวียนประจำปีบัญชีกำหนดกรอบการประเมินด้านผู้มีส่วนได้ส่วนเสียให้สำรวจความพึงพอใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเพื่อสะท้อนการบริหารทุนหมุนเวียนแล้ว ยังเป็นกลไกสำคัญที่นำมาสู่การปรับปรุงและพัฒนาระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติด้วย

ดร.เกียรติอนันต์ ล้วนแก้ว ผู้อำนวยการศูนย์วิจัย มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ กล่าวว่า ผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ผู้ให้บริการ และองค์กรภาคีที่เกี่ยวข้องต่อระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี2560มี5เรื่อง คือ1.คะแนนความพึงพอใจ2.การรับรู้ต่อระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ3.ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเมื่อเข้ารับบริการ4.ประเด็นความไม่พึงพอใจ เหตุผลการไม่ใช้สิทธิและข้อเสนอแนะ และ5.ข้อเสนอเชิงนโยบาย โดยมีรายละเอียดดังนี้ การสำรวจความพึงพอใจประชาชน พบว่าปี2560กลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจสูงถึงร้อยละ95.66เพิ่มขึ้นจากปี2559ที่ได้ร้อยละ91.86

การรับรู้ของประชาชนต่อระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ โดยการรับรู้ของประชาชนที่สูงสุด3อันดับแรก คือ ใช้บัตรประชาชนในการใช้สิทธิอยู่ที่ร้อยละ92.39คนไทยทุกคนมีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ร้อยละ90.18และเมื่อเจ็บป่วยต้องไปใช้บริการที่หน่วยที่ลงทะเบียนสิทธิ ร้อยละ86.39ขณะที่การรับรู้ของประชาชนที่น้อยที่สุด คือ ใช้สิทธิคลอดบุตรโดยไม่จำกัดจำนวนครั้ง ร้อยละ57.00สามารถเปลี่ยนหน่วยได้ปีละไม่เกิน4ครั้ง ร้อยละ52.83และทราบสายด่วน ร้อยละ52.63โดยกลุ่มประชาชนที่รับรู้น้อยที่สุด คือ กลุ่มอาชีพค้าขาย กลุ่มช่วงอายุ25-39ปี และกลุ่มผู้สำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษา

ดร.เกียรติอนันต์ กล่าวว่า ส่วนผลสำรวจค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเมื่อเข้ารับบริการ พบว่าจากประชากรตัวอย่างจำนวน9,280คน มีผู้ใช้บริการและใช้สิทธิจำนวน3,404คน ในจำนวนนี้มีผู้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม 1,633คน โดยเมื่อสำรวจค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายเพิ่มเติม พบว่า เป็นค่าบริการ30บาท928คน หรือร้อยละ56.83รองลงมาเป็นค่าเดินทาง814คน หรือร้อยละ49.60จำนวน5- 7,000บาท

ส่วนข้อเสนอเชิงนโยบายจากผลสำรวจครั้งนี้ คือ1.เพิ่มการรับรู้ให้กับประชาชน ผู้ให้บริการและองค์กรภาคีเมื่อเปลี่ยนแปลงนโยบายและรับรู้น้อย2.ส่งเสริมกระบวนการมีส่วนร่วมของผู้ให้บริการทุกระดับในการพัฒนาการให้บริการ เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพมาตรฐานบริการในมุมที่ประชาชนให้ความสำคัญเมื่อเข้ารับริการ3.สร้างความมั่นใจในประสิทธิภาพบริหารกองทุนให้กับประชาชนและภาคีที่เกี่ยวข้อง ในประเด็นจัดสรรงบประมาณตรงไปหน่วยปฐมภูมิหลักเกณฑ์ขั้นตอนปฏิบัติต่างๆ การลดภาระการบันทึกข้อมูล คุณภาพยา ความครอบคลุมสิทธิ และ4.เสริมสร้างความเข้มแข็งการบริหารกองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ (กองทุนสุขภาพตำบล) แบบบูรณาการ

logoline