จีนโชว์เทคนิคใหม่มีดนาโนฆ่ามะเร็งตรงจุด 

               นายเห้อ ล่างปิง กล่าวว่า ปัจจุบันในประเทศไทยมีผู้ป่วยเกิดเป็นโรคมะเร็งใหม่เป็นจำนวนมาก ได้โทรติดต่อมาที่มาหาตนอยู่วันละไม่น้อยกว่า 10 20 สาย และสนง.ของตนได้รับข้อมูลจากประเทศไทยในเรื่องคนไทยเป็นโรคมะเร็งมีแนวโน้มสูงขึ้น ผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะขั้นสุดท้ายรอการเสียชีวิตมีแนวโน้มมากขึ้น ทางบริษัทของตนจึงมีแนวโน้มมาจัดกิจกรรมสัมมนาในประเทศไทย โดยเฉพาะ จ.ขอนแก่น เพื่อเตือนประชาชนคนไทยที่ จ.ขอนแก่น ให้รู้ทันภัยของโรคมะเร็ง พร้อมวิธีการป้องกันโรคมะเร็ง แต่ประการสำคัญต้องการให้คนสูงอายุรู้ทันโรคมะเร็ง ตรวจสุขภาพเพื่อป้องกันแต่เนิ่น ๆ จะได้รักษาให้ทันก่อนที่มะเร็งจะลุกลามจนถึงขั้นเสียชีวิต โดยเฉพาะคนที่เป็นมะเร็งและได้ตรวจพบก็จะเป็นมะเร็งระยะ 3 4 ดังนั้นจึงขอบอกประชาชนคนไทยโรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว แสตนฟอร์ด มีวิธีการรักษาด้วยเทคนิคใหม่ "มีดนาโน" ฆ่ามะเร็งตรงจุด

                ดร.ไป๋ ไห่ซาน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคมะเร็งจากประเทศจีน เปิดเผยว่า โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว สแตมฟอร์ด จากประเทศจีน ได้มีวิธีการใหม่ได้ทดลองรักษามาแล้วกว่า 10 ปี ประสบความสำเร็จ โดยเฉพาะคนไทยไปรักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าวไปรักษาหายขาดแล้วจำนวนมาก กลับมาอยู่ประเทศไทยอย่างปกติทุกคน โดยมีวิธีรักษาด้วยเทคนิคใหม่ "มีดนาโน" ฆ่ามะเร็งตรงจุด จึงขอเผยแพร่พร้อมยินดีร่วมงานกับโรงพยาบาลที่ขอนแก่นในการรักษาโรคมะเร็งด้วย "มีดนาโน"

                    ปัจจุบันที่ตรวจพบผู้ป่วยคนไทยเป็นโรคมะเร็งตับ ปอด มะเร็งเต้านม และ มะเร็งลำไส้ ผู้ป่วยดังกล่าวได้เดินทางไปรักษาโรคมะเร็งดังกล่าวที่โรงพยาบาลมะเร็งสมัยใหม่กว่างโจว สแตนฟอร์ด ประมาณวันละ 30 40 คน ทางโรงพยาบาลได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ "มีดนาโน" ฆ่ามะเร็งตรงจุด

                 "วิธีรักษาโรคมะเร็งด้วยเทคนิคสมัยใหม่ในระดับสากล โดยการใช้มีดนาโนฉายคลื่นไฟฟ้าความถี่สูงผ่านเข้าชีพจรไปยังก้อนเนื้อมะเร็งร้ายอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว โดยที่คลื่นไฟฟ้าไม่ไหลย้อนกลับออกไปได้ ซึ่งนับว่าเป็นครั้งแรกของประเทศไทย เพื่อหวังช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งแม้ในระยะ 3- 4 ทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาโรคมะเร็งแบบบูรณาการให้สูงขึ้นอีกด้วย เทคโนโลยีการรักษาดังกล่าว ได้รับการรับรองจากสถาบัน FDA ประเทศสหรัฐอเมริกา มีจุดเด่นคือระยะเวลาในการสลายก้อนเนื้อร้าย หรือก้อนมะเร็งที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาด 3 ซม. ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ซึ่งทุกๆการยิงคลื่นไฟฟ้าหนึ่งครั้ง จะปล่อยคลื่นไฟฟ้าเข้าไปยังชีพจรขนาด 90 ครั้ง/ วินาที แต่ละครั้งใช้เวลาประมาณ 1 นาที (ไม่เกิน 70 วินาที) และไปสลายเซลมะเร็งที่ซ้อนทับกัน 3 4 ชั้น ได้ในช่วงระยะเวลาสั้น

                 ทั้งนี้วิธีการดังกล่าวยังเหมาะสำหรับผู้ป่วยมะเร็ง โดยเฉพาะตรงตับอ่อน ตับ ปอด ไต ต่อมลูกหมาก ซึ่งจะมีข้อได้เปรียบโดยเฉพาะบริเวณที่ใกล้กับหลอดเลือดดำที่หล่อเลี้ยงตับ ถุงน้ำดี ท่อน้ำดี ตับอ่อนและท่อไต เนื่องจากว่าไม่มีผลกระทบต่อเส้นเลือด และเส้นประสาทบริเวณที่รักษา เช่น เส้นเลือด ท่อน้ำดี เส้นประสาท อีกทั้งท่อปัสสาวะยังสามารถทำงานได้ตามปกติหลังจากการรักษา โดยหลังจากที่รักษาแล้วถ้าผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น ก็สามารถที่จะออกจากโรงพยาบาลในวันนี้ หรือวันรุ่งขึ้นได้ทันที

              "ลักษณะจะเป็นเข็ม 2 เข็ม มีขั้วบวกและขั้วลบ ขนาดเล็กกว่าไม้จิ้มฟัน ใช้ขั้วไฟฟ้าคู่ปล่อยกระแสไฟฟ้า 1,000 3,000 โวลต์ ก้อนเนื้อมะเร็งจะไม่สามารถทนกระแสไฟฟ้าขนาดนี้ได้ และจะสลายไปในที่สุด แต่ข้อดีคือไม่ทำให้เกิดบาดแผล ไม่ทำร้ายเซลล์ปกติโดยรอบ และทำให้ไม่สามารถกลับมาเป็นโรคมะเร็งในครั้งที่ 2" ดร.ไป๋ ไห่ซาน กล่าว