"อาการตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว แผลก็สมานขึ้น ไปโรงเรียนได้แล้วหลังจากที่หยุดมานาน (คุณหมอว่าอย่างไรบ้าง) ค่อนข้างจะกังวลระหว่างนี้ที่รอแผลปิด คือกลัวติดเชื้อ ถ้าติดเชื้อการรักษาก็เหมือนต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่ แต่ล่าสุดที่ไปเช็คมาคือแผลเริ่มสมานแล้ว ก็ไม่น่าเป็นห่วงอะไรคือไปโรงเรียนได้ ส่วนโปรดก็ไม่มีอาการเจ็บ เขาจำไม่ได้เลยว่าเขาเจ็บหรือคุณหมอทำอะไรบ้าง คุณหมอบอกว่าหลังจากนี้ประมาณ 1 เดือนน่าจะหาย กับที่โรงเรียนเราก็แค่แจ้งทางโรงเรียนทราบว่าน้องเพิ่งผ่าตัดมาต้องดูแลอย่างไร อย่างคลาสว่ายน้ำก็ต้องงดไปก่อน ในฐานะที่เราเป็นแม่เราก็ห่วงอยู่แล้ว เพียงแต่เรารู้อยู่แล้วว่าโรงเรียนที่เราเลือกให้น้องโปรดก็เป็นโรงเรียนที่ได้รับมาตรฐานที่สุด ก็เลยไม่ค่อยกังวลในเรื่องการดูแล (ห่วงอะไรอีก) คือช่วงที่ผ่านน้องทานน้ำ ทานอาหารไม่ได้เลย ตอนนี้ก็เบาใจทานได้และออกกำลังกายได้ปกติอยากให้เขาแข็งแรงเร็วๆ ที่ผ่านมาเครียดมาก เหมือนเป็นโรคจิตอ่อนๆ คือเราก็กังวล" เป้ยกล่าว
เมื่อถามต่อว่าช่วงที่ผ่านมาได้บอกลูกชายเรื่องอาการป่วยบ้างไหม ซึ่งคุณแม่ลูกหนึ่งแจงว่า "ก็มีบอกเขาว่าวันนี้ต้องไปโรงพยาบาล เขาก็โอเคไม่งอแง พี่ป๊อปก็เป็นห่วงแต่เขาเป็นผู้ชายก็จะไม่ค่อยแสดงความรู้สึกสักเท่าไหร่ เขาก็จะบอกว่าไม่มีอะไรใครๆ ก็ผ่ากัน แต่เราด้วยความเป็นแม่ก็จะเยอะ คือกลัวไปหมดทุกอย่าง (ก่อนผ่าตัดกังวลอะไร) คือตอนแรกกลัวเขาเจ็บ คือมีช่วงหนึ่งก่อนที่เขาจะผ่าตัดเขาจะป่วยบ่อยมาก แต่ละครั้งที่เป็นก็จะใช้ระยะเวลาในการรักษาสัปดาห์กว่าๆ ซึ่งช่วงนั้นเขาจะทำอะไรไม่ได้เลย เรียนก็ไม่ได้ ทำกิจกรรมอะไรก็ไม่ได้ ก็รู้สึกว่าถ้าเป็นอย่างนี้และมันส่งผลกับการเติบโตและพัฒนาการของเขา เราสู้ทำใจให้เขาผ่าตัดไปเลยดีกว่า บวกกับท่อหายใจของเขาตีบมาก จากร้อยเปอร์เซ็นต์เหลือแค่ 17 ซึ่งหมอก็แนะนำให้ผ่าด่วน เราบอกคุณแม่ บอกคุณสามีของเรา ว่ามีอาการแบบนี้ ส่วนตัวเราก็จะดูแลโปรดเต็มที่ที่สุด ตอนผ่ามาปกติมันต้องเป็นก้อนแข็งๆ แต่ของโปรดมันนิ่ม คุณหมอบอกว่าติดเชื้อเยอะมาก (เกิดจากอะไร) คือมันเกิดขึ้นได้กับทุกคน คือปกติมันเหมือนตัวกรองเชื้อโรคแต่ถ้าเราป่วยบ่อยๆ มันรับเชื้อโรคบ่อยๆ มันก็จะกลายเป็นตัวกักเก็บโรคแทนตัวกรองโรค เราก็จะป่วยบ่อยมาก ก็เลยตัดสินใจผ่าเลย" เป้ยกล่าวปิดท้าย