svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

รวบสมุนแก็งนายพล อุ้มรีดนักธุรกิจชาวจีนเพิ่มอีก 2 คาห้องเช่าย่านลาดกระบัง

31 สิงหาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผู้การโจ๊กฯ ตำรวจ 191 รวบสมุนแก็งนายพลอุ้มรีดนักธุรกิจชาวจีนเพิ่มอีก 2 คาห้องเช่าย่านลาดกระบัง พร้อมแจ้งข้อหา "กรรโชกทรัพย์-อั้งยี่" มั่นใจพยานและหลักฐานมัดแน่น ขณะที่ผู้ต้องหาปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา ยืนยันเป็นผู้บริสุทธิ์

                             จากกรณีกลุ่มคนร้ายบุกเข้าไปในบริษัทคันต้า กรุ๊ป ไทยแลนด์ จำกัด พร้อมกับควบคุมตัวนายสุรชัย แซ่ย่าง ประธานบริษัทสายการบินแห่งหนึ่ง และนายทรงศักดิ์ วิโรจน์ถาวรกิจ ผู้จัดการบริษัทฯ ไปรีดเงินจำนวน 20 ล้านบาท เพื่อแลกกับการปล่อยตัว ต่อมาผู้เสียหายได้เข้าร้องทุกข์ผ่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จนกระทั่งนำมาสู่การออกหมายจับผู้ต้องหากว่า 10 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 14 ก.ค.2560 ที่ผ่านมา ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น             ล่าสุดที่ สน.โคกคราม - เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2560 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. , พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. , พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รองผบก.ทท. , พ.ต.อ.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผกก.กองบังคับการสายตรวจ , พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.โคกคราม , พ.ต.ท.ทัสสุมิ ยอดประทุมวัน รอง ผกก.สส.สน.โคกคราม และเจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.สปพ. ร่วมกันแถลงผลการจับกุมตัวนายกิตติพันธ์ ตันติชาญชัยกุล  อายุ 50 ปี  และนายกิตติธัช  จันทรมณี  อายุ 48 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาเลขที่ 1985-1986/60 ลงวันที่ 30 ส.ค.60 ในข้อหาร่วมกันกรรโชกทรัพย์ และเป็นอั้งยี่ โดยจับกุมได้ที่ห้องพักให้เช่าแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง             เกี่ยวกับเรื่องนี้ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้หารือกับ พ.ต.อ.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผกก.สน.โคกคราม ถึงความคืบหน้าในสำนวน ซึ่งทราบว่าคดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว  คดีนี้สามารถปิดคดีได้โดยได้ขยายผลไปถึงผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จับกุมตัวผู้ที่ร่วมขบวนการไปแล้วจำนวน 12 คน ล่าสุดยังสามารถจับกุม นายกิตติพันธ์ และนายกิตติธัช ได้เพิ่มเติม รวมผู้ต้องหาในขบวนการนี้ทั้งสิ้น 14 คน เบื้องต้นทราบว่า นายกิตติพันธ์ ได้มีการติดต่อพูดคุยกันหลายครั้ง อีกทั้งยังให้นายโก๊ะ เต็ก ชวน ชาวสิงคโปร์ ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้ก่อนหน้านี้ ไปยืมรถยนต์ ยี่ห้อแลคซัส เพื่อนำไปรับผู้เสียหาย ส่วนนายกิตติธัช ได้เข้าไปดูลาดเลาในบริษัทของผู้เสียหาย ซึ่งคดีนี้ผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ ตนไม่หนักใจ เพราะทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน ประกอบสำนวนได้อย่างครบถ้วน มีข้อมูลเพียงพอเอาผิดได้               พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังพบผู้เสียหายเพิ่มเติ่มอีก 1 ราย ซึ่งเหยื่อรายนี้เคยถูกก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในพื้นที่เมืองพัทยา จ.ชลบุรี โดยผู้เสียหายอาจจะยังเกรงกลัวอยู่ จึงยังไม่กล้าเข้ามาร้องทุกข์แจ้งความ ในส่วนนี้ได้ให้ตำรวจท่องเที่ยวลงไปสร้างความมั่นใจให้กับผู้เสียหายรายนี้แล้ว และทราบว่าผู้เสียหายถูกกระทำในลักษณะเดียวกันนี้เมื่อช่วงต้นเดือนกรกฎาคม มีมูลค่าทรัพย์สินที่สูญเสียไปประมาณ 10 ล้านบาท ทั้งนี้ หากประชาชนได้รับความเสียหายในลักษณะถูกกรรโชกทรัพย์ หรือเรียกค่าไถ่ ควรให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ฯ หรือเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษได้ โดยทางเจ้าหน้าที่ฯ จะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป               ด้านนายกิตติพันธ์และกิตติธัช ได้ปฏิเสธในข้อกล่าวหา โดยนายกิตติพันธ์ ระบุว่า   รู้จักกับนายโก๊ะ เต็ก ชวน ชาวสิงคโปร์ เพราะประกอบอาชีพเป็นมัคคุเทศก์มาก่อน และทำงานเกี่ยวกับบริษัททัวร์ ซึ่งปกติแล้วนายโก๊ะ เต็ก ชวน จะชอบมายืมรถยนต์ตนไปใช้ และตนได้ให้นายโก๊ะ เต็ก ชวน ยืมรถคันดังกล่าวไปใช้นานแล้วประมาณ 2-3 เดือน ซึ่งช่วงนั้นตนไปต่างประเทศ อีกทั้งนายโก๊ะ เต็ก ชวน ก็ได้ช่วยผ่อนค่างวดรถให้อีกด้วย               ขณะที่ นายกิตติธัช เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับนายโก๊ะ เต็ก ชวน เนื่องจากตนเคยประกอบอาชีพเป็นมัคคุเทศก์มาก่อน ส่วนผู้เสียหายตนรู้จักแบบผิวเผิน เพราะเคยทำทัวร์ให้กันมาก่อน อย่างไรก็ตาม ตนขอปฏิเสธในทุกข้อกล่าวหา เพราะตนบริสุทธิ์ใจและไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น 

logoline