svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ตำรวจจับคลังเก็บ "บารากู่" มูลค่ากว่า 3.5 ล้าน อ้างถูกกฎหมาย-รัฐรับรอง

31 สิงหาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

บุกจับคลังเก็บ "บารากู่" ย่าน ถ.นาคนิวาส พร้อมของกลางมูลค่ากว่า 3.5 ล้านบาท พบโฆษณาผ่านเว็บไซต์ แถมแอบอ้างถูกต้องตามกฎหมายและมีหน่วยงานของรัฐฯรับรอง

                     เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 31 สิงหาคม 2560 พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ.   , พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ ผอ.กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านธุรกิจแบบตรง และตลาดแบบตรง (หน.ฉก.)ปฏิบัติการพิเศษ สคบ. , พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รองผบก.สปพ. , พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท. , พ.ต.ท.อาริศ คูประสิทธิรัตน์ พ.ต.ท.รัฐชยุตม์ วัชรโกมลมาศ รอง ผกก.สายตรวจ บก.สปพ. , พ.ต.ท.นฤวัต พุทธวิโร สว.งานสายตรวจ 1กก.สายตรวจ บก.สปพ. ร.ต.ท.วิสูตร.เต็งเฉี้ยง รองสว.งานสายตรวจ1 กก.สายตรวจ บก.สปพ.  สนธิกำลังตำรวจ กก.สายตรวจ ตำรวจบก.ทท. และเจ้าหน้าที่สคบ. นำหมายค้นศาลอาญา ที่ 345/2560 ลงวันที่ 30 ส.ค. 2560 ตรวจสอบบริษัท CLOUD STONES  เลขที่ 40/96 ซ.นาคนิวาส44 ถ.นาคนิวาส แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ หลังสืบทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเปิดเป็นที่ทำการบริษัท และเป็นคลังเก็บสินค้า                ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น มีรั้วรอบขอบชิด เจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้น ซึ่งมี น.ส.ปรางทิพย์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32  ปี ชาวกรุงเทพ นายแอเดียล มิเซล อายุ 35 ปี  สัญชาติฝรั่งเศส รับเป็นเจ้าของบริษัทฯ นอกจากนี้ยังพบนางเอ  (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 46 ปี ชาว จ.ศรีสะเกษ  ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่คลังสินค้า และน.ส.บี (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 35 ปี ชาวจ.สุพรรณบุรี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายขาย               จากการตรวจสอบภายในบ้านพบว่า มีการแบ่งออกเป็นสำนักงานอยู่ด้านในของตัวบ้าน อีกทั้งด้านหลังของตัวบ้าน ยังดัดแปลงทำเป็นแหล่งผลิตบารากุ รวมทั้งเป็นที่เก็บคลังสินค้า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบเตาสูบบารากู่ จำนวน 325 เตา ถ้วยสำหรับใส่ตัวยา จำนวน 600 อัน สายดูดบารากู่  จำนวน 600 อัน ตัวยาบารากู่ จำนวน  550 กระปุก ถ่านสำหรับสูบบารากู่  30 กล่อง รวมทั้งสารเคมีอีกจำนวนหนึ่ง  จึงตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน              พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.5 บก.ทท. ได้ร่วมกันจับกุมผู้จำหน่ายบารากู่ ในพื้นที่ สภ.อ่าวนาง จ.กระบี่ โดยในการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบพบว่า บริเวณข้างหม้อดูดบารากู่ที่ตรวจยึดได้นั้นมีตัวอักษร "CLOUD STONES"  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบปากคำผู้ต้องหานกระทั่งทราบว่า ชุดบารากู่ ทั้งหมดนั้นได้สั่งซื้อผ่านทางเว็บไซต์ ของบริษัท CLOUD STONES (www.thecloudstones.com) ซึ่งเปิดขายให้กับประชาชนทั่วไปสามารถเข้าไปสั่งซื้อได้ โดยมีการโฆษณาในเว็บไซต์ว่า สินค้าบารากู่ของบริษัทฯ ผลิตขึ้นมาถูกต้องตามกฎหมายและมีหน่วยงานของรัฐฯรับรอง  เจ้าหน้าที่ตำรวจงานสืบสวน กก.5 บก.ทท. จึงได้ทดลองสั่งซื้อจนทราบว่าสินค้าบารากู่ ดังกล่าวถูกส่งมาจากพื้นที่กรุงเทพมหานคร  จึงได้ประสานข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจงานสายตรวจ1 กก.สายตรวจ บก.สปพ. และตำรวจท่องเที่ยว  จนสืบสวนทราบว่า มีการเปิดเป็นที่ทำการบริษัท และเป็นคลังเก็บสินค้า จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุญาตศาล ออกหมายค้น ก่อนเข้าตรวจค้น พบของกลางจำนวนมากมูลค่ากว่า 3,500,000 บาท               น.ส.ปรางทิพย์ เปิดเผยว่า ตนได้นำเข้าสินค้าดังกล่าวทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบารากุ  เข้ามาก่อนที่ทางภาครัฐฯ จะมีการออกกฎหมาย ซึ่งทันทีที่กฎหมายมีการบังคับใช้ ตนก็ไม่รู้จะทำเช่นใด และพยายามที่จะทำให้ถูกกฎหมาย เนื่องจากตนได้ลงทุนไปมากกว่า 10 ล้านบาท แต่ก็ไม่เป็นผล ทั้งนี้ จึงอยากขอความเห็นใจผ่านทางเจ้าหน้าที่ว่าอยากให้คำนึงถึงผู้ประกอบการเวลาจะออกกฎหมายด้วย                พ.ต.อ.ประทีป กล่าวว่า  สำหรับบารากุก่อให้เกิดอันตราย และความเสี่ยงให้เกิดโรคติดต่อทางเดินหายใจ เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภค นิยมนำมาสูบกันหลายคน ในส่วนที่ทางผู้ต้องหาให้การว่า ได้เคยดำเนินการขออนุญาตผ่านหน่วยงานรัฐ แต่ก็ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งเหตุผลมาจากการที่พบว่าในบารากุ มีสารเคมีบางตัวที่ส่งผลอันตรายต่อร่างกาย จึงไม่สามารถที่จะอนุญาตให้จำหน่ายได้                     เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหา " ร่วมกันลักลอบนำ หรือพาของที่ยังมิได้มีการเสียภาษี หรือของต้องห้าม หรือของต้องจำกัดหรือของที่ยังไม่ได้ผ่านพิธีการทางศุลกากรโดยถูกต้องเข้ามาในราชอาณาจักร, ร่วมกันมีสินค้าซึ่งรู้ว่ามิได้ชำระภาษีไว้ในความครอบครอง , ร่วมกันเป็นผู้ผลิตเพื่อขาย ผู้สั่งหรือนำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อขาย สินค้าบารากู่ หรือตัวยาบารากู่"  ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 1 ล้านบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ก่อนนำผู้ต้องหาทั้งหมดพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

logoline