สำหรับเนื้อหาในร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯจะมีการจัดสรรงบประมาณแยกเป็นรายกระทรวงแล้ว ยังจัดทำงบประมาณตามแผนงานด้วย เช่น งบประมาณรายจ่ายสำหรับแผนงานบูรณาการสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ 500,470,800 บาท งบประมาณรายจ่ายสำหรับแผนงานบูรณาการป้องกัน ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ 869,303,200 บาท งบประมาณรายจ่ายสำหรับแผนงานบูรณาการปฏิรูปกฎหมายและพัฒนากระบวนการยุติธรรม 833,983,900 บาท งบประมาณรายจ่ายสำหรับแผนงานบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ 13,255,744,700 บาท เป็นต้น
นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการฯ ยังมีข้อสังเกตและข้อเสนอต่อการจัดงบประมาณด้วย เช่น การเสนอให้กองทัพบกซึ่งมีสถานีวิทยุของกองทัพบกอยู่จำนวนมาก ควรใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่มีการบิดเบือนอย่างทันท่วงที รวมทั้งควรใช้เป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์งานของรัฐบาลและใช้ในการขับเคลื่อนงานของกองทัพบก เนื่องจากประชาชนในต่างจังหวัดมีข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารที่เป็นสาระ และควรจัดสรรเวลาเพื่อสื่อสารงานของกองทัพบกให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญ ทุกหน่วยงานควรกำหนดให้วิสัยทัศน์ของหน่วยงานให้เป็นรูปธรรม ชัดเจนเพียงพอที่จะระบุได้ว่าหน่วยงานต้องดำเนินการอะไรเพื่อให้บรรลุผลสัมฤทธิ์อะไรที่สำคัญต้องปฏิบัติได้จริงและมีกำหนดเวลาที่แน่นอน
จากนั้น เป็นการพิจารณาเรียงตามมาตรา โดยสมาชิกได้อภิปรายเพียงไม่กี่คน และไม่มีสมาชิกอภิปรายถึงงบของกระทรวงที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงแต่อย่างใด ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงกลาโหม หรือ กระทรวงมหาดไทย จากนั้นเป็นการลงมติเรียงมาตราในวาระสอง และลงมติในวาระสาม เห็นชอบด้วยคะแนน 200 ต่อ 0 งดออกเสียง 3 เพื่อส่งต่อไปยังรัฐบาลและประกาศใช้เป็นกฎหมายต่อไป โดย สนช.ใช้เวลาพิจารณาพ.ร.บ.ดังกล่าวด้วยเวลา 4 ชั่วโมง
ภายหลังสนช.ลงมติให้ความเห็นชอบ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า สนช.ได้ทำหน้าที่ในนามของรัฐบาลต้องขอขอบคุณสนช.ที่ให้ความเห็นชอบกับงบประมาณ โดยครั้งนี้สนช.ได้ทำหน้าที่ให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายงบประมาณเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน การที่สนช.ได้ให้ความเห็นชอบงบประมาณทั้ง 4 ครั้ง เมื่อมองย้อนถึงอดีตที่ผ่านมารัฐบาลได้ใช้งบประมาณแก้ไขปัญหาประเทศที่ผ่านมาเป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม สำหรับงบประมาณประจำปี 2561 รัฐบาลจะนำไปแก้ไขปัญหาและขับเคลื่อนประเทศไทย รวมไปถึงการพัฒนายุทธศาสตร์ชาติในอนาคต โดยเฉพาะการแข่งขันกับต่างประเทศและการลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
"รัฐบาลขอบคุณคณะกรรมาธิการ สมาชิกสนช.ทุกคน และรัฐบาลขอให้ความรับรองว่างบประมาณทั้งหมดที่สนช.ให้ความเห็นชอบ รัฐบาลจะนำไปใช้อย่างคุ้มค่าบนพื้นฐานหลักธรรมาภิบาลและวินัยการเงินการคลังอยู่บนหลักของกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้นำไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืนต่อไป" นายวิษณุ กล่าว