svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

ผู้สื่อข่าวโร่แจ้งความ ถูก ผกก. ข่มขู่ ให้เขียนยอมรับผิด จอดรถขวางทาง

29 สิงหาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผู้สื่อข่าว "เวปไซต์ข่าว" วิ่งโร่แจ้งความ หลังถูกรอง ผกก.สส.บก.น.5 บังคับข่มขู่ ให้เขียนยอมรับผิดจอดรถขวางช่องทาง-ถูกล็อกล้อ

เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 29 สิงหาคม  นายจักรพงษ์ พ่วงเพิ่ม อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201/4 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงตลาดบางเขน เขตหลักสี่ กทม. ผู้สื่อข่าวเจาะลึกทันเหตุการณ์และสมาชิกสมาคมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรม แห่งประเทศไทย ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.กฤษณะ มั่นศักดิ์ สารวัตร (สอบสวน) สน.พญาไท เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กรณีถูก พ.ต.ท.จิรายุส วานิชกูล รอง ผกก.สส.บก.น.5 ใช้อำนาจบังคับขู่เข็นให้เซ็นยินยอมและยึดเอกสารสำเนารถยนต์และบัตรประชาชน กรณีจอดรถขวางช่องจอดรถ เหตุเกิดที่ข้างอาคาร 2 กองบังคับการสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ 191 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม.
นายจักรพงษ์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงเวลา 14.00 น.ตนได้ขับรถเก๋งยี่ห้อนิสสัน มาร์ช สีขาว ทะเบียน 4 กช 5173 กทม.ของเว็บไซค์ข่าวเจาะลึกทันเหตุการณ์ มาจอดบริเวณลานจอดรถข้างอาคาร 2 กองบังคับการสายตรวจปฏิบัติการพิเศษ 191 ถนนศรีอยุธยา แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กทม. โดยจอดลักษณะขวางช่องจอดรถของ รอง ผกก.สส.บก.น.5 โดยปลดเกียร์ว่างไว้จากนั้นเข้าห้องผู้ข่าวตามปกติเพื่อปฎิบัติหน้าที่
ต่อมา เวลา 16.30 น.ได้เดินกลับไปที่รถยนต์เพื่อเลื่อนรถไปจอดในที่ว่าง เมื่อไปถึงรถปรากฎว่ารถยนต์ถูกล็อกล้อโดยไม่มีเอกสารทางราชการติดที่หน้ารถยนต์เพื่อแสดงให้รู้ว่าหน่วยงานใดผู้ล็อกจึงได้สอบถามตำรวจจราจรโครงการพระราชดำริ ว่าที่ล็อกล้อเป็นของผู้ใด จึงได้ทราบภายหลังว่าเป็นของ พ.ต.ท.จิรายุส วานิชกุล รองผกก.สส.บก.น.5
นายจักรพงษ์ กล่าวต่อว่า จากนั้นตนจึงเดินทางขึ้นไปติดต่อเพื่อสอบถามสาเหตุและขอให้ปลดล็อกล้อรถยนต์ เมื่อเข้าไปพบ รอง.ผกก. ท่านดังกล่าว ตนได้ยกมือไหว้ขอโทษแต่รอง.ผกก. บอกให้นำบัตรประชาชนพร้อมสำเนาเล่มรถยนต์มาตรวจสอบ จากนั้นได้นำเอาเอกสารที่ต้องการไปถ่ายสำเนามาให้ ก่อนที่ทางรอง ผกก.สส.บก.น.5 ได้ให้ตนเขียนตามคำพูดของตัวเองลงสำเนาบัตรว่า "ข้าพเจ้าได้นำรถยนต์จอดขวางจำนวน 2 ช่องทางโดยไม่ทิ้งเบอร์โทรศัพท์หรือเอกสารที่สามารถติดต่อได้ ซึ่งขอยอมรับว่ากระทำความผิดจริงแล้วจะไม่ให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นอีก จึงขอลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน" ซึ่งระหว่างนั้นตนได้มองหากระดาษแต่ทาง รอง ผกก.สส.บก.น.5 ได้พูดว่า "คุณมองหาชื่อผมเหรอ นายคุณเป็นใครผมก็รู้จัก คุณจะมีปัญหากับผมเหรอ" ด้วยเสียงแข็ง ตนจึงปฏิเสธไปว่าต้องการหาเศษกระดาษเท่านั้น เพื่อให้เบอร์โทรเท่านั้น หลังจากนั้นให้ลูกน้องลงมาปลดล็อกล้อ
นายจักรพงษ์ กล่าวอีกว่า การกระทำดังกล่าวของ พ.ต.ท.จิรายุส วานิชกุล เป็นการใช้อำนาจหน้าที่ข่มขู่ผู้แจ้งและไม่มีอำนาจบังคับข่มขู่บังคับให้ผู้แจ้งเขียนข้อความดังกล่าวตามเอกสาร ทำให้ผู้แจ้งเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมและรู้สึกเหมือนถูกข่มขู่โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.พญาไทเพื่อให้ทำการสอบสวนและดำเนินการตามกฎหมายต่อไปร.ต.อ.กฤษณะ เผยว่า เบื้องต้นรับเรื่องลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้วโดยจะนัดผู้เสียหายมาสอบปากคำเพิ่มเติมในวันพรุ่งนี้ (30 ส.ค.) เวลา 17.00 น. หลังจากนั้นจะติดต่อ พ.ต.ท.จิรายุส วานิชกุล มาสอบถามเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป

logoline