svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

คาด "ยิ่งลักษณ์" ขึ้น ฮ.ส่วนตัวหนี

28 สิงหาคม 2560
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

แม้ฝ่ายการเมืองและฝ่ายความมั่นคงจะยังไม่ยืนยันข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับแหล่งที่อยู่ของคุณยิ่งลักษณ์ หลังหายไปจากบ้านและไม่ไปฟังคำพิพากษาของศาลในคดีจำนำข้าว โดยอ้างว่ามีอาการป่วยน้ำในหูไม่เท่ากันก็ตาม แต่จนถึงปัจจุบันก็มีข้อมูลจากหลายๆ แหล่งที่ระบุถึงเส้นทางหลบหนี และปลายทางของอดีตนายกฯหญิงเกือบทั้งหมดแล้ว ซึ่งล่าความจริงได้รวบรวมข้อมูลมาฝากกันค่ะ

ช่วงแรกๆ หลังจากเพิ่งมีข่าวคุณยิ่งลักษณ์หายตัวไป ไม่ยอมไปฟังคำพิพากษาคดีจำนำข้าว มีข่าวค่อนข้างชัดเจนว่า คุณยิ่งลักษณ์หลบหนีออกจากประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานนานาชาติโปเชนตง กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา จากนั้นก็ต่อเครื่องไปสิงคโปร์ และนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของอดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นพี่ชาย

แต่การไปต่อเครื่องที่สนามบินขนาดใหญ่ในกรุงพนมเปญ ดูจะเอิกเกริกเกินไป และล่าสุดทางการกัมพูชาก็ออกมายืนยันแล้วว่าคุณยิ่งลักษณ์ไม่ได้ผ่านเข้าประเทศทางช่องทางปกติ ฉะนั้นจึงนำไปสู่สมมติฐานที่ 2 คือเดินทางจากประเทศไทย ไปยังเกาะช้าง หรือตรงยาวไปจังหวัดเกาะกง ประเทศกัมพูชา จากนั้นจึงต่อเครื่องบินส่วนตัวไปยังนครดูไบ

แต่ปริศนาที่ต้องคลี่คลายก็คือ การเดินทางออกจากประเทศไทย ใช้พาหนะอะไร และจุดสุดท้ายก่อนออกเดินทาง คุณยิ่งลักษณ์อยู่ที่ไหนที่ผ่านมามีกระแสข่าวอ้างว่า คุณยิ่งลักษณ์อาจใช้เรือเดินทางจากวัดระฆังโฆสิตาราม ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเจ้าตัวเดินทางไปทำบุญ เพื่อมุ่งหน้าไปเกาะช้างหรือเกาะกง โดยหากไม่ใช้เรือ ก็นั่งรถยนต์ไป แต่ล่าสุด "ล่าความจริง" ได้ข้อมูลมาว่า สถานที่สุดท้ายที่คุณยิ่งลักษณ์ปรากฏตัว คือโรงแรมเอส.ซี.ปาร์ค ริมถนนเลียบทางด่วนรามอินทรา ซึ่งเป็นโรงแรมของคนในตระกูลชินวัตร ฉะนั้นจึงมีความเป็นไปได้ว่าคุณยิ่งลักษณ์อาจเดินทางไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านพระราม 9 ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรม และเป็นกิจการของคนในตระกูล เพื่อเดินทางไปกัมพูชา และต่อเครื่องบินส่วนตัวไปสิงคโปร์ หรือนครดูไบ

สาเหตุที่เชื่อว่าใช้เฮลิคอปเตอร์ หรือเครื่องบินเล็กส่วนตัว เพราะการขึ้นบินไม่มีการตรวจเข้มมากนัก และโรงพยาบาลที่เป็นกิจการของคนในตระกูลก็มีลานจอดเฮลิคอปเตอร์
ล่าสุดมีข้อมูลระบุว่า ผู้ที่รู้เห็นเกี่ยวกับการเดินทางออกจากประเทศไทยของคุณยิ่งลักษณ์ น่าจะเป็นตำรวจติดตามที่ไปทำหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซึ่งมีผู้ชาย 1 คน และผู้หญิง 1 คน โดย พลตำรวจเอก ศรีวราห์ บอกเรื่องนี้ว่า เป็นหน้าที่ของกองบัญชาการตำรวจนครบาลที่ต้องไปตรวจสอบ เพราะต้นสังกัดของทั้งคู่คือนครบาล
สำหรับปลายทางสุดท้ายของคุณยิ่งลักษณ์ มีข่าวว่าไม่ใช่นครดูไบ แต่เป็นประเทศอังกฤษ และมีข่าวว่าคุณยิ่งลักษณ์อาจจะยื่นเรื่องขอลี้ภัยที่อังกฤษด้วย

ประเด็นนี้ คุณปรเมศวร์ อินทรชุมนุม รองอธิบดีอัยการ สำนักงานชี้ขาดคดี สำนักงานอัยการสูงสุด บอกกับ "ล่าความจริง" ว่า การขอลี้ภัยหลักๆ แล้วจะทำได้เมื่อเจอกับภัยคุกคาม เช่น เกิคความไม่ปลอดภัยกับชีวิต หรือถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ยกตัวอย่างง่ายๆ เหมือนกรณีที่ พลตำรวจตรีปวีณ พงศ์สิรินทร์ อดีตหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีค้ามนุษย์ ขอลี้ภัยไปประเทศออสเตรเลีย เนื่องจากถูกกลุ่มผู้มีอิทธิพลค้ามนุษย์ข่มขู่คุกคามให้เลิกทำคดี และถูกย้ายลงพื้นที่ภาคใต้ ทั้งที่การสอบสวนยังไม่แล้วเสร็จ หรือการลี้ภัยทางการเมืองของอีกหลายๆ คน เช่น นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตรัฐมนตรีมหาดไทยจากพรรคเพื่อไทย หรือ นายจอม เพชรประดับ สื่อมวลชนชื่อดัง ที่ขอลี้ภัยทางการเมืองโดยอ้างเรื่องการรัฐประหาร นอกจากนี้ยังสามารถขอลี้ภัยสงครามได้อีกด้วย

หลายคนอาจสงสัยว่ารัฐบาลประเทศที่มีการขอลี้ภัย ใช้หลักเกณฑ์อะไรมาตัดสินว่าจะอนุญาตให้ลี้ภัยได้หรือไม่ คุณปรเมศวร์ บอกว่า เป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละประเทศว่าจะอนุญาตหรือไม่ โดยอาจจะพิจารณาจากทรัพย์สินของผู้ที่ขอลี้ภัย ความรู้ความสามารถ อาจจะอนุญาตให้อาศัยเพื่อทำงานชั่วคราว ที่เรียกว่า work permit แล้วค่อยขอ green card เพื่ออยู่ถาวร เหล่านี้จึงเป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาว่าคุณยิ่งลักษณ์จะไปขอลี้ภัยที่ประเทศไหน และจะได้รับอนุญาตหรือไม่

อีกหนึ่งข้อสงสัยคือ แล้วผู้ที่ขอลี้ภัยต้องทำเรื่องไปยังประเทศปลายทางก่อนหรือไม่ คุณปรเมศวร์ ให้คำตอบว่า ทำได้ทั้งขอก่อน และขอทีหลัง ที่แน่ๆ คือต้องไปยังไประเทศนั้นๆ ให้ได้ แล้วเขียนคำร้องแสดงเหตุพำนัก จะชั่วคราวหรือถาวรก็แล้วแต่กรณี
ส่วนกรณีคุณยิ่งลักษณ์ อัยการปรเมศวร์ บอกว่า หากคุณยิ่งลักษณ์จะใช้เหตุผลเฉพาะเรื่องคำพิพากษาของศาลฎีกานักการเมือง คงไม่มีประเทศไหนรับลี้ภัยแน่ๆ เพราะเหตุผลไม่เพียงพอ แต่หากร้องขอลี้ภัยด้วยเหตุผลอื่น เช่น ถูกยึดทรัพย์ หรือถูกกลั่นแกล้งจากคำสั่งของ คสช. ก็อาจมีความเป็นไปได้

logoline