โดยทีมชาติไทยครองความยิ่งใหญ่มาตลอด ฝ่ายชาย ครองแชมป์รวม 21 สมัย ส่วนฝ่ายหญิงครองแชมป์ต่อเนื่องมา 17 สมัยซ้อน และ เป็นแชมป์รวม 22 ครั้ง
ผลปรากฎว่า ทีมชาย 4x100 เมตรชาย ไม้หนึ่ง กฤษฎา นามสุวรรณ, ไม้สอง บัณฑิต ช่วงไชย, ไม้สาม จิระพงษ์ มีนาพระ ไม้สี่ จรัญ สะเทิงรัมย์ สามารถวิ่งเข้าเส้นชัยได้เป็นทีมแรก ด้วยเวลา 38.90 วินาที คว้าแชมป์ 3 สมัยติดต่อกัน และเป็นแชมป์สมัยที่ 22 ทำลายสถิติเก่าของ วัชระ สอนดี, ศิริโรจน์ ดาราสุริยงค์, สมโภช สุวรรณรังษี, และ สิทธิชัย สุวรประทีป ที่ทำไว้เมื่อซีเกมส์ 2007 ที่จ.นครราชสีมา เคยทำไว้ 38.95 วินาที ส่วนเหรียญเงินเป็นของอินโดนีเซีย 39.05 วินาที และเหรียญทองแดงเป็นฟิลิปปินส์ 39.11 วินาที
"มิ้ว" จิระพงศ์ตัวแทนทีมไต้ฝุ่นชาย กล่าวว่า ขอบคุณแฟนๆ ที่คอยให้กำลังใจกันอยู่เสมอ ทีมทำงานกันอย่างเต็มที่เพื่อจะป้องกันแชมป์เอาไว้ให้ได้ แต่ที่เหนือความคาดหมายคือทำลายสถิติในรอบ 10 ปีลงได้สำเร็จ ต้องขอบคุณสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ ที่ให้โอกาส และโค้ชทุกคนที่คอยอบรมสั่งสอนจนประสบความสำเร็จ
วิ่งผลัด 4x100 เมตรหญิง ไม้หนึ่ง ปาริฉัตร เจริญสุข, ไม้สอง กัญญารัตน์ ปากดี, ไม้สาม ทัศพร วรรณกิจ ไม้สี่ สุภาวรรณ ธิปัตย์ พลาดท่าเสียแชมป์เป็นครั้งแรกในรอบ 32 ปี ให้กับ ทีมไต้ฝุ่นสาวจากเวียดนาม ที่เข้าเส้นชัยเป็นอันดับหนึ่ง ทำเวลาได้ 43.88 วินาที ทำลายสถิติเดิมที่ทีมไทยทำไว้ในซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่กรุงเนปิดอว์ ประเทศพม่า 44.00 วินาที โดยไทยทำเวลาได้ 44.62 วินาที ได้เพียงเหรียญเงินเท่านั้น ส่วนเหรียญทองแดงเป็นของ ฟิลิปปินส์ เวลา 44.81 วินาที
ทีมไต้ฝุ่นหญิง กล่าวว่า ต้องยอมรับความพ่ายแพ้ เพราะว่าทีมเวียดนามมาดีมาก จริงๆ สถิติของไทยไม่ได้ต่ำกว่าปกติ ทางทีมเวียดนามความสามารถเฉพาะตัวมาดีกว่าไทย ซึ่งทีมไทยรู้ตัวตั้งแต่ก่อนแข่งแล้วว่าเป็นรอง พยายามปรับอย่างที่สุดเพื่อให้ทีมมันออกมาดีที่สุด แต่ก็ทำไม่สำเร็จ อย่างไรก็ตาม ทีมจะไม่ยอมแพ้ จะกลับมาสู้ใหม่ในรายการต่อไปเพื่อทวงแชมป์คืนมาให้ได้